เจาะประเด็นข่าว 7HD - หลังเมื่อคืนนี้ทหารฝั่งไทยเข้ายึดพื้นที่ช่องอานม้า และปักธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ หลายคนยังไม่ทราบว่าพื้นที่จุดนี้มีเหตุปะทะจากการรุกรานเมื่อไหร่ ไปไล่เรียงกัน
เรื่องนี้เริ่มจากวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชา มาตั้งฐานทหาร บริเวณ "เนิน 745" พื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งไทย และหลังจากวันนี้จึงมีเหตุปะทะจากการรุกราน โดยเฉพาะปลายเดือนพฤษภาคม มีการยิงกระสุนปืนใหญ่และจรวด ที่ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ตลอดจนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนขยายวงกว้างจนถึงปัจจุบัน
แต่ในที่สุดเช้าวันนี้ ทหารไทยก็เข้ากระชับพื้นที่บริเวณช่องอานม้า และปักธงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์
หลายคนสงสัย ทำไม กัมพูชา จึงต้องยึดพื้นที่ช่องอานม้า มีเหตุผลหลัก 4 ข้อ คือ
1. เป็นจุดสูงข่ม ช่องอานม้าเป็นเส้นทางธรรมชาติบนเทือกเขาพนมดงรัก เชื่อมชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถใช้สอดส่อง และควบคุมการเคลื่อนไหวกำลังทหารได้
2. เป็นพื้นที่ทับซ้อนอ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศ เพราะยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะแนวเทือกเขาพนมดงรัก และแผนที่ทั้งสองประเทศที่ใช้อ้างอิงไม่ตรงกัน
3. แรงกดดันทางการเมืองภายในกัมพูชา ตลอดปีนี้ประเทศกัมพูชา มีความตึงเครียดทางการเมือง การแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวกับไทยอาจเป็นกลยุทธ์เรียกคะแนนนิยมจากประชาชน ด้วยการแสดงความกล้าหาญ และรักษาเอกราช
4. อาจเป็นความพยายามต่อเนื่อง เพื่อแสดงสิทธิ์ครอบครองโดยพฤตินัย หลังศาลโลกตัดสินปราสาทพระวิหาร เป็นของประเทศกัมพูชา ปี 2551
อีกจุดที่ทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ คือ ภูมะเขือ จุดนี้ มีการสู้รบดุเดือดที่สุด เพราะกัมพูชาเตรียมใช้กำลังทหารและอาวุธวิถีโค้งจำนวนมากยิงใส่ฝ่ายไทย แต่สุดท้ายถูกทหารไทยตอบโต้ ก่อนชักธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสา ประกาศเป็นดินแดนของไทย
แม้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ตัดสินให้ ปราสาทพระวิหาร เป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่โดยรอบ รวมถึง ภูมะเขือ และเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งยังเป็นพื้นที่พิพาทจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ศาลโลกตัดสิน ในปี 2551 กัมพูชา พยายามสร้างฐานทหารบนยอดภูมะเขือ รวมทั้งกระเช้า บันได และเสาเรดาห์ เพื่อให้เป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งขัดกับ MOU ปี 2543 ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ในเขตชายแดนที่ทั้งสองประเทศยังไม่ได้ตกลงชัดเจน
มีข้อมูลจาก นายอำเภอพนมดงรักษ์ บอกว่า เหตุปะทะจากการรุกรานในพื้นที่ข้อพิพาท ทำให้ปราสาทตาเมือนธม ได้รับความเสียหายไปแล้ว 50-60%
ส่วนปราสาทตาควาย เสียหายไม่มาก และ ปราสาทตาเมืองโต๊ด ถูกระเบิดไป 2 ลูก เสียหาย 20%