ห้องข่าวภาคเที่ยง - วันนี้สถานการณ์ที่จังหวัดสุรินทร์ ยังตึงเครียดต่อเนื่อง เสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ๆ ทั้งพระและชาวบ้านต้องช่วยกันสอดส่องดูแลในพื้นที่รับผิดชอบ ไปติดตามกับคุณเกียรติชัย บุญราโส
ครึ่งวัน เสียงปืนใหญ่ในพื้นที่สีแดง อำเภอพนมดงรัก ยังคงดังสนั่นต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปะทะกัน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวบ้านอาสาต้องตรวจตราอย่างเข้มข้น เพื่อเสริมแกร่งให้ชาวบ้าน ที่สอดส่องดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่
หลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้า พื้นที่อำเภอปราสาท ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ต่างก็ปิดตัวเงียบสนิท เพราะอพยพออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงตั้งแต่เมื่อวาน เนื่องจากเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้องระวัง เพราะก่อนหน้านี้มีกระสุนปืนใหญ่ ตกในหมู่บ้านภายในตัวอำเภอ จึงต้องให้ประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย
ทีมข่าวเข้ามาสำรวจบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่สีแดง อำเภอพนมดงรัก พบว่าบรรยากาศเงียบสงัด เพราะผู้คนอพยพไปตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปะทะกัน ปัญหาที่เราพบเจอตอนนี้คือ สัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยไว้ตามบ้าน เริ่มขาดแคลนอาหาร เพราะสถานการณ์ยืดเยื้อ
โชคดีที่ยังคงมีผู้นำชุมชน ชาวบ้านอาสา และ ชรบ.ประจำหมู่บ้าน คอยสอดส่องดูแลบ้านเรือน และสัตว์เลี้ยงให้กับประชาชน
โดยในทุกวัน ชุดชาวบ้านอาสาจะกระจายกันตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เพื่อสอดแนมและตรวจสอบความเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน และจะมีฝ่ายเสบียงที่คอยขนข้าวปลาอาหาร และน้ำดื่มไปกระจายตามจุดต่าง ๆ ที่กลุ่มชาวบ้านอาสากลุ่มนี้อยู่
เพราะชาวบ้านกลุ่มนี้ถือเป็นชาวบ้านที่มีความเสี่ยงที่สุด ที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
อีกจุดที่น่าห่วงคือ วัดตามหมู่บ้าน ซึ่งจะมีบางวัดพระท่านไม่ได้อพยพ เพราะต้องเฝ้าดูแล เช่นเดียวกับ พระครูพนมสุตาภรณ์ ที่ต้องทำหลุมหลบภัยใต้กุฏิ เพราะจำเป็นต้องอยู่ดูแลความเรียบร้อยภายในวัด
โดย พระครูพนม ได้พาทีมข่าวเข้าไปสำรวจภายในหลุมหลบภัยที่ทำขึ้นมาเอง เอาไว้หลบยามฉุกเฉิน ซึ่งสามารถรองรับพระลูกวัด และประชาชนซึ่งเป็นชาวบ้านอาสาได้จำนวนหนึ่ง
โดยพระครูพนม ยังกล่าวว่า ยอมรับว่ามีความกลัว แต่ก็ใช้ธรรมะข่มจิตให้ตื่นรู้ และเข้าใจสถานการณ์ พร้อมสวดมนต์ภาวนาให้ทุกคนปลอดภัย รวมถึงทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ก็ขอให้สัมฤทธิ์ผล
ส่วนสถานการณ์ครึ่งวันนี้ ยังได้ยินเสียงปืนใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง ความถี่ไม่ถึง 10 วินาทีต่อครั้ง ซึ่งต้องจับตาแล้วว่าหลัง นายภูมิธรรม เวชยชัย ไปเจรจาที่มาเลเซียแล้ว เสียงกระสุนปืนใหญ่จะหยุดลงหรือไม่ นี่คือความคืบหน้าที่จังหวัดสุรินทร์