สนามข่าว 7 สี - ตีมึน หรือตั้งใจเมิน ! ยังเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ จากฝ่ายลงมือก่อนอย่างกัมพูชา เมื่อมีการฝ่า "มติหยุดยิง" ซ้ำ ๆ ปมหนึ่งที่มีข้อสังเกตว่อนโซเชียล ใครเข้ายึดพื้นที่เป้าหมายได้ ฝั่งนั้นก็เป็นเจ้าของ แนวคิดนี้ยังใช้ได้หรือไม่ แล้วต้นตอปัญหาเกิดจากอะไร มีทางแก้ไขหรือไม่ ไล่กันทีละประเด็น
จับตากัมพูชาตลบหลัง มติหยุดยิง
อย่างที่เกริ่นไป หลังเส้นตายยุติการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข เที่ยงคืนตรงของ 28 กรกฎาคม หรือก้าวสู่วันใหม่ 29 กรกฎาคม แต่ทางปฏิบัติ ฟ้องกันด้วยภาพ ด้วยเวลา ล่วงเลยไปเกือบ 06.30 น. ถึงฟ้าสว่างแล้ว แต่ก็ไม่สิ้นเสียงปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ปมนี้ก็มีการตั้งข้อสังเกต กัมพูชาใช้อาวุธ รุกหนักยิงใส่ไทยหนักหน่วง ค่ำยันสว่าง เพราะมุ่งครอบครองพื้นที่โดยชอบธรรม
ไขปมฝ่ามติหยุดยิง มุ่งยึดพื้นที่โดยชอบธรรม
แต่ประเด็นนี้ นักรัฐศาสตร์ อาจารย์ไชยันต์ ไชยพร จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็บอกว่าถ้ายึดหลักรัฐศาสตร์และสภาพสังคมในยุค Civilize ขณะนี้ การใช้กำลังประหัตประหารชิงพื้นที่ อาจไม่ใช่สิ่งที่นานาประเทศยอมรับได้
แค่เส้นบนกระดาษ เดิมพันของอธิปไตย
มรดก-ล่าอาณานิคม ก็ไม่พ้นเรื่องการยึดถือแผนที่ ซึ่งไทยและกัมพูชา ถือในมาตราส่วนต่างกัน ทำให้เกิดการตีความการเป็นเจ้าของ นำไปสู่ปัญหาพิพาทซ้ำ ๆ
อ่านเกมสหรัฐฯ สู่มติ "หยุดยิง"
ทีนี้มาดูการเคลียร์ใจ 2 ฝ่าย ที่มีชาติมหาอำนาจร่วมด้วย โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ถึงขึ้นผู้นำออกโรงเคลียร์ด้วยตัวเอง พร้อมงัดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ขึ้นปราม บีบ 2 ชาติ เข้าสู่การเจรจาหยุดยิง แต่การขยับในมุมภาษีสหรัฐฯ ก็เกิดคำถาม ตกลงไทยได้ประโยชน์แน่หรือ
วงแตก ! จากเงื่อนไขหยุดยิงสู่ "ภาษีทรัมป์"
ไปย้อนดูท่าที รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม ถูกถามถึงเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าจี้ใจดำหรือไม่ ถึงขั้นวงสัมภาษณ์แตก
