“โรม” ระบุ พรรคประชาชนได้มีการตักเตือน “สหัสวัต” และคงมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับนายสหัสวัตต่อไป

“โรม” ระบุ พรรคประชาชนได้มีการตักเตือน “สหัสวัต” และคงมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับนายสหัสวัตต่อไป

View icon 217
วันที่ 30 ก.ค. 2568 | 13.28 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"โรม” ขออภัย ปม “สหัสวัต” โพสต์เดือดจวกกองทัพ ลั่น จุดยืนพรรคประชาชนสนับสนุนทหารปกป้องประเทศและประชาชน ชี้การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร “รัฐบาล” ช้ากว่าทุกองคาพยพ

วันนี้ (30 ก.ค.68) นายรังสิมันต์ โรม สส. และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นดุเดือดต่อกองทัพ กรณีไทย - กัมพูชา ว่า พรรคได้มีการตักเตือน และคงมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับนายสหัสวัต ต่อไป เรื่องนี้เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ต้องขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ซึ่งนายสหัสวัตได้แสดงสปิริตแล้ว เราไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่เข้าใจว่านายสหัสวัต มีความคิดของตนเอง พยายามใช้พื้นที่ส่วนตัวอย่างเฟซบุ๊กแสดงความเห็น แต่คิดว่าคงมีคนทักไปหลังจากโพสต์แล้ว ซึ่งเป็นไปตามรายละเอียดหลังจากปรากฎเป็นข่าว ว่าพรรคได้ดำเนินการอย่างไรไปบ้างแล้ว
  
สำหรับจุดยืนของพรรคประชาชนยังคงสนับสนุนให้กองทัพทำงานในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้ในช่วงที่มีการปะทะกันโดยใช้อาวุธ ต้องมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต้องสนับสนุนกันและกัน เหมือนกับที่หลายคนถามจุดยืนของเราต่อกองทัพเป็นอย่างไร ซึ่งในการปกป้องประเทศชาติเราต้องสนับสนุน แต่เราไม่เคยสนับสนุนให้กองทัพมายึดครองประเทศ ดังนั้นใครก็ตามที่ฉวยจังหวะนี้ในการบอกกับกองทัพว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมต้องมีหัวหน้าคณะรัฐประหาร หรือยุครัฐประหารดีกว่า ตนต้องบอกว่าขอประทานโทษ เพราะคนที่เรียกร้องให้กองทัพทำรัฐประหาร การเรียกร้องให้ทหารปกครองประเทศ ถือเป็นการเรียกร้องให้ทหารทำผิดวินัย ละเมิดกฎหมาย เพระทหารในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศยามศึกสงคราม ตนคิดว่าเราไม่ควรไปเรียกร้องเขาให้ละเมิดกฎหมาย เขาควรปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็นเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
  
จุดยืนของพรรคประชาชนไม่เคยเปลี่ยน อะไรที่ถูกต้องที่ดี เราก็ว่าดี อะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็ต้องดำเนินการ ยกตัวอย่าง แม้วันนี่พรรคประชาชนจะสนับสนุนให้กองทัพปกป้องประชาชน แต่ปัญหาอื่นๆ เช่น การขึ้นศาลทหารซึ่งหลายครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ต้องเรียกอย่าง อย่าเอาทุกเรื่องมารวมกัน แต่ต้องมองเป็นกรณีไปใช้เหตุใช้ผล ไม่มีอะไรดี 100 % หรือแย่ 100 %

ส่วนที่มีการปะทะกัน เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.68) แต่รัฐบาลออกมาสื่อสารล่าช้า นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า รัฐบาลช้ากว่าทุกองคาพยพ หลายเก้า สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะสถานการณ์มันไปเร็ว รัฐบาลควรจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นที่แนวหน้า รัฐบาลน่าจะมีเวลากว่าชาวเน็ต คนที่เล่นโซเชียลด้วยซ้ำ สิ่งที่คนต้องการจะทราบคือกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง รัฐบาลจะเดินอย่างไร คิดว่าเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมอยากรู้ หากรัฐบาลตอบไม่ได้หรือช้าไป คนไทยก็จะจินตนาการต่างๆนานา เพราะผสมมาจากความไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่มีอยู่เดิมแล้ว ดังนั้น ต้องปรับการสื่อสารให้เร็ว ทันต่อสถานการณ์ เข้าใจว่า War room 24 ชั่วโมงคงจะมี แต่ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรจะลุกต่อหลังจากหยุดยิงแล้ว คือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นห่วงว่าเครื่องไม้เครื่องมือคอลเซ็นเตอร์ จะถูกกัมพูชาใช้อาวุธนี้ มาทำอะไรต่อ  เพื่อบันทอนเสถียรภาพของประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าประเทศไทยจะเอาอย่างไร จึงอยากเสนอรัฐบาล ควรใช้จังหวะนี้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจากที่เงียบไป ก่อนหน้านี้ฮึ่มๆว่าจะทำ แต่สุดท้ายก็เงียบไป