วันนี้ (31 ก.ค. 68) ทีมข่าวไปสำรวจความเสียหายตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ที่ถูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา ตกลงมาในแหล่งชุมชนและโรงพยาบาล ซึ่งนี่อาจจะเป็นหลักฐานชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาปะทะตอบโต้โดยไม่ยึดหลักมนุษยธรรม
หลักฐานความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา ที่ตกลงในชุมชนและสถานพยาบาล โดยคนในพื้นที่เชื่อสนิทใจว่า กัมพูชาโจมตีแบบไร้มนุษยธรรม
โดยช่วงสายที่ผ่านมา ทีมข่าวได้ไปสำรวจความเสียหายของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของน้องน้ำโขง อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตจากแรงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ ที่กัมพูชายิงลงมาตกลงใส่บ้าน เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่นายนี บุญแต่ง ญาติของน้องน้ำโขง ซึ่งเป็นผู้เห็นภาพสุดเศร้า ขณะที่น้องน้ำโขง เลือดอาบอยู่ในอ้อมกอดคุณยาย ตอกย้ำกับเห็นภาพความเสียหาย ทำให้เหตุการณ์ยังคงฝังใจและทำใจไม่ได้ มองว่าการทิ้งกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาไร้มนุษยธรรม อยากให้นานาชาติได้เห็นว่ากัมพูชาทำอะไรกับคนไทย
เช่นเดียวกับผู้ใหญ่บ้านโจรก ที่มองว่ากัมพูชาทิ้งกระสุนปืนใหญ่แบบไร้มนุษยธรรม เพราะเลือกจุดที่ใกล้ชุมชนและโรงเรียน อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีสายลับเข้ามาสำรวจพื้นที่ เพราะก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสำรวจในพื้นที่ ก่อนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจะขับขี่ออกไปจากชุมชน ไม่นานก็เกิดเหตุ กระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้มาสำรวจความเสียหายที่โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ หนึ่งในสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 โดยมีความเสียหายทั้งหมด 3 จุดหลักคือ
-บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล ใกล้กับป้ายชื่อโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในเขตรั้วของโรงพยาบาล
-อาคารภูมิพัฒน์ ซึ่งเป็นอาคารของกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
-พื้นที่ด้านหลังอาคารที่พักเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล แรงระเบิดทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหายตลอดทั้ง 3 ชั้น
ซึ่งหลักฐานความเสียหายนี้แสดงให้เห็นถึงการทิ้งกระสุนปืนใหญ่แบบไร้หลักมนุษยธรรมเพราะมีการทิ้งถึง 3 จุดด้วยกัน