ตำรวจโต้ ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ตั้งรางวัลนำจับโดรน 1 แสน แต่เป็นอำนาจของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งอาจได้รับการประสานจาก กองบิน 1 นครราชสีมา
วันนี้ (31 กรกฎาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีรายงานการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินวนใกล้กองบิน 1 นครราชสีมา ซึ่งเป็นเขตยุทธศาสตร์สำคัญด้านการทหารและการบิน และแม้ว่าการตรวจสอบและสืบสวนในเบื้องต้นจะพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงกับภัยความมั่นคงแต่อย่างใดก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท กองบิน 1 ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ งดใช้อากาศยานไร้คนขับ ในรัศมี 9 กิโลเมตรจากสนามบิน กองบิน 1 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ซึ่งทุกหน่วยงานในจังหวัด รวมไปถึง กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้บูรณาการความร่วมมือเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังทางเทคโนโลยี ป้องกันภัยทางอากาศ รวมทั้ง ตั้งจุดเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัด และรถทุกคันที่จะเข้า-ออกกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และกองบิน 1 นครราชสีมา ตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ความมั่นคงสูง
ในขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้ กองบิน 1 นครราชสีมา ได้โพสต์ภาพผ่านเพจเฟสบุ๊ค “กองบิน 1Home of the Tiger” มีข้อความว่า “กองบิน 1 ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่รอบที่ตั้งกองบิน 1 ขอให้ช่วยสอดส่องดูแลและช่วยสังเกตการณ์อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ผิดกฎหมาย หากตรวจพบและแจ้งเบาะแสผู้ควบคุมอากาศยานไร้คนขับและอากาศยานไร้คนขับ จนนำไปสู่การจับกุม กองบิน 1 มีรางวัลนำจับ แจ้งข้อมูลที่ ร้อย ทสห.บน.1 โทร.092-7920999”
ซึ่งในโพสต์“กองบิน 1Home of the Tiger” ไม่ได้มีการระบุจำนวนรางวัลนำจับ และไม่ได้มีการโพสต์ระบุจำนวนโดรนที่ตรวจพบแต่อย่างใด เนื่องจากมีสื่อโซเชียลบางสื่อให้ข้อมูลไม่ถูกต้องและคาดเคลื่อน โดยอ้างชื่อ พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ด้วย
ซึ่งมีรายงานว่ากองบิน 1 ได้ตั้งรางวัลนำจับจริง แต่ยังไม่ได้ระบุว่า เป็น 1 แสนบาทตามที่มีสื่อโซเชียลกล่าวอ้าง ส่วนกรณีที่มีเพจไปโพสต์ว่า ตรวจพบโดรนหลายสิบลำ และมีการตัดต่อภาพเอกสารรายงานเหตุการณ์และการละเมิดการหยุดยิงของกัมพูชา ภายหลัง 24.00 ที่มีข้อความเขียนว่า “เวลา 04.00-05.00 บน.1 นครราชสีมา ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ Drone จำนวนประมาณ 70 ลำ (ไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัด) บินวนบน พท.บน.1” มาประกอบลงในโพสต์นั้น แหล่งข่าวฯ ระบุว่า เอกสารไม่แน่ชัดว่ามาจากที่ใด และมาจากใคร แต่จากการมอนิเตอร์เฝ้าระวัง ยังไม่มีรายงานการตรวจพบโดรนจำนวนมากตามที่โพสต์ จึงต้องขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตกใจ และให้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนถูกต้องจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมไปยัง พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพราะในโพสต์มีการอ่างถึง ซึ่ง พล.ต.ต.ไพโรจน์ฯ แจ้งมาว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาไม่ได้เป็นหน่วยงานหลักตั้งรางวัลนำจับโดรนผิดกฎหมายในกรณีดังกล่าวนี้ จะเป็นอำนาจของหน่วยบังคับการบิน ซึ่งเรื่องการใช้กฎหมายจะเป็นอำนาจของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจทำลายอากาศยานได้หากมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
ซึ่งกองบิน 1 แม้จะไม่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการฝ่าฝืนการบินโดรนโดยตรง แต่มีบทบาทในการสนับสนุนและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กพท. และตำรวจ ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโดรน รวมถึงการลาดตระเวน การเฝ้าระวัง และการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นการทำงานร่วมกันในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ