กัมพูชา "โกหกพกลม" ต่อแน่ พล.อ.วีรชน แนะรัฐบาล-ทหาร เตรียมข้อมูลหักล้างให้แน่น ก่อนการประชุม UNGA ปลายเดือน ก.ย.นี้ การเข้ามาของสหรัฐฯกับจีน มองได้ว่ามหาอำนาจเริ่มขยับเข้ามา การลากเส้นเขตแดนต้องตั้งสติดี ๆ อย่าถูกลากไปตามเกมที่กัมพูชากำหนดมาอย่างปราณีต
วันนี้ (1 ส.ค.68) พลเอก วีรชน สุคนธปฏิภาค อดีตรองโฆษกรัฐบาล กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาต่อจากนี้ ว่า เราต้องตั้งสติให้ดีอย่าเล่นตามเกมกัมพูชา เขาพยายามลากเราเข้าไปสู่เวทีการเจรจา พยายามดึงให้เป็นพหุภาคี คือ มีผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย อาจจะดึงมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะเกิดขึ้นจริง ๆ การเจรจาไทย-กัมพูชา ต้องจัดให้เป็นทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่เราตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ต้องระบุให้ชัดเจนเป็นเพื่อการหยุดยิง นำความสงบกลับมาในช่วงนี้
แต่ในระยะยาว ประเด็นที่ชัดที่สุดคือชายแดนหรือพรหมแดน ต้องเป็นกรอบการเจรจาที่เราต้องกำหนดได้เอง คือ ทั้ง 2 ประเทศเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และการปรากฎตัวของสหรัฐฯ กับประเทศจีน ทำให้เห็นว่าทั้ง 2 ประเทศ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ และให้ความสำคัญกับไทยและกัมพูชา ทำให้เห็นว่าภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ที่มหาอำนาจมองเริ่มขยับมาด้านนี้มากขึ้น เราต้องมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส เรื่องการแสวงหาความชอบธรรมในทุกนโยบาย ทุกปฏิบัติการทางพลเรือน ทางทหาร มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ให้ทุกภาคส่วนระดมสติปัญญารับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
พลเอกวีรชน ยังมองว่า การปฏิบัติการทหารในการยึดคืนหรือโจมตี ก็ทำได้ แต่ความชอบธรรมที่เกิดขึ้นจะเป็นปัญหา เพราะมีความพยายามยกระดับขึ้นในเวทีโลก ให้ชัดมากยิ่งขึ้น ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง แต่เราต้องแสวงหาความชอบธรรมด้วยการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ที่จำเป็น เนื่องจากพื้นที่นี้มีส่วนสำคัญกำหนดทรัพยากรธรรมชาติทางบกและทางทะเล จึงต้องใช้ทุกภาคส่วน ตอนนี้เราอยู่อารมณ์มวลชน ว่าเราแพ้ ไม่ได้ดั่งใจ ชัยชนะทางยุทธวิธีไม่ใช่คำตอบ เราสามารถใช้กำลังทหารทำสงครามได้โดยไม่ยาก แต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ ผลทางยุทธศาสตร์ที่ตามมา ทำให้เราลำบาก
การกำหนดเส้นเขตแดน หากใช้อารมณ์และถูกลากโยงไปสู่เวทีระดับประเทศ เราจะเสียเปรียบ ณ วันนี้ ต้องตั้งสติดี ๆ อย่าถูกลากไปตามเกมที่กัมพูชากำหนด ตอนนี้กัมพูชาวางเกมอย่างปราณีต ในทุกนโยบาย ทุกการปฏิบัติทางทหาร จิตวิทยา ข่าวสาร ประสานทุกภาคส่วนของเขา
ตอนนี้ประชาชนให้กำลังใจทหาร ซึ่งความต้องการของทหารอยากให้ประชาชนรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย ทหารเสียใจกับบางช่วงที่ประชาชนเดือดร้อน ตนฟังจากน้องน้องทหาร เวลาพูดถึงชาวบ้านที่สูญเสียที่พักต่าง ๆ ออกมาพูดด้วยน้ำตา ทำให้ทหารมองว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำให้ตอบคำถามกับสังคมแล้วว่า "มีทหารไว้ทำไม" วันนี้ถ้าไม่มีทหาร ยังนึกไม่ออกเลยว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไร
ส่วนการประชุมแบบทวิภาคีไม่ว่าจะเป็น GBC หรือ JBC ก็ยืดเยื้อกันไป จะประสบความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็อยู่กันมาแบบนี้ หลายยุคหลายสมัย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การประชุม UNGA หรือสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ปลายเดือนกันยายน ต้องตั้งหลักให้ดี มั่นใจได้ว่า กัมพูชาต้องไปโกหกพกลมต่อ กับเวทีโลก ฝ่ายไทยต้องเตรียมการให้รอบคอบ ทั้งการทูตฝ่ายพลเรือนและการทูตฝ่ายทหาร เป็นเรื่องสำคัญ เวลาที่มีในช่วงนี้ต้องรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อหักล้างการที่กัมพูชาจะไปพูดในUNGA
