อาจารย์วิทยาลัยจุกอก เมียเป็นชู้กับเพื่อนรัก ระดับรอง ผอ. หลักฐานชัด กอดจูบ ขยำก้น

อาจารย์วิทยาลัยจุกอก เมียเป็นชู้กับเพื่อนรัก ระดับรอง ผอ. หลักฐานชัด กอดจูบ ขยำก้น

View icon 1.5K
วันที่ 1 ส.ค. 2568 | 19.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จุกอก เมียเป็นชู้กับเพื่อนรัก ระดับรอง ผอ. ผัวจับได้มีหลักฐานชัด กอดจูบ ขยำก้น เมียอ้างแค่หยอกล้อ หอบหลักฐานร้อง ผอ.-หลายหน่วยงาน แต่เรื่องเงียบ

วันนี้ (1 ส.ค.68) ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี อาจารย์วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี นำเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม  เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังพบว่าภรรยาเป็นชู้กับ รอง ผอ.วิทยาลัยที่ตนสอนหนังสือ ซึ่งเป็นเพื่อนรัก และสนิทสนมกันมาหลายสิบปี

นายเอ เล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่า ตนอยู่กินจดทะเบียนสมรสกับภรรยามานานหลายสิบปี มีลูกสาวด้วยกัน 3 คน คนโตมีครอบครัวแล้ว คนรองกำลังเรียนหนังสืออยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนคนเล็กอายุเพียง 10 ขวบเศษ โดยภรรยาตนทำงานเปิดร้านขายของชำอยู่ภายในสหการของวิทยาลัยแห่งนี้ กระทั่งเมื่อปี 2565 ภรรยาตนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ค่อยกลับบ้าน ตนสงสัยว่า รองผอ. ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันสนิทกันมาหลายสิบปี น่าจะมีพฤติกรรมที่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับภรรยาของตน เพราะเห็นทั้งคู่มักพูดคุยสนิทสนมกัน ตนจึงแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในร้านของชำที่ภรรยาเปิดขายอยู่

กระทั่งพบว่าเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 68 รอง ผอ.รายนี้ ได้เข้ามาหาภรรยาของตนภายในร้านขายของชำ โดยมีพฤติกรรมที่เห็นในกล้องวงจรปิดคือ ทั้งสองคนพยายามหยอกล้อพูดคุย ต่อมาภรรยาได้เดินไปดูหน้าประตู ไม่เห็นว่ามีลูกค้าเป็นนักศึกษาเข้ามาใช้บริการ ภรรยาของตนจึงเดินมาหา รอง ผอ. รายนี้ ก่อนเปิดเสื้อให้ดูหน้าอก แล้วทั้งสองคนเดินเข้าไปในมุมอับ จากนั้นรองผอ. ได้กอด จูบ ขยำก้นภรรยาตนเอง ซึ่งในคลิปใครเห็นก็รู้ว่าทั้งสองคน ต้องมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่านี้อย่างแน่นอน

หลังเกิดเหตุตนพยายามคาดคั้นภรรยา ซึ่งก็บอกว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกัน ตนนำเรื่องไปร้องที่สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) แต่เรื่องก็เงียบหายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคยเข้าร้องเรียนกับ ผอ. ก็พูดแต่เพียงว่าให้ไปร้องหน่วยงานโดยตรง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเสื่อมเสียกับทางวิทยาลัย ทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนร้องไห้ทุกคืน อยากเอาปืนไปยิง รอง ผอ. เพื่อนรักรายนี้ บางครั้งก็คิดฆ่าตัวตาย แต่สงสารลูกสาว 3 คน และแม่ของตนที่อายุ 80 กว่าปี จึงต้องเก็บความช้ำกล้ำกลืนมาตลอด ตั้งแต่ปี 65 ตนอยากให้หน่วยงานต้นสังกัดลงโทษ รอง ผอ. รายนี้ ตามระเบียบวินัยของทางราชการ เพราะไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เขาก็มีภรรยาจดทะเบียนสมรส แต่ไม่มีลูกด้วยกัน

ด้านทนายรณณรงค์ เผยว่า  พฤติกรรมในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่กระทบศักดิ์ศรีของวิชาชีพครู แต่ยังส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการศึกษา โดยเฉพาะเมื่อผู้บังคับบัญชาเพิกเฉย ไม่ยอมดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนผู้เสียหายคืออาจารย์ท่านนี้สามารถดำเนินเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ฟ้องชู้เรียกเงินค่าเสียหายได้เลยเยอะ ๆ เป็นถึง รองผอ. คงมีเงิน ส่วนอีกเรื่องเราจะดำเนินคดีในเรื่องของวินัยข้าราชการครู เพราะเขาไปร้องเรียนเอาผิดทางวินัย แต่คณะกรรมการที่ตรวจสอบกลับนิ่งทั้งๆ ที่ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ไม่รู้ช่วยกันหรือเปล่า อาจารย์เขาก็ไม่ไหว อาการเขาแย่มากตอนนี้ มูลนิธิจะดำเนินการ 2 อย่างคือ 1.ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายส่วนแพ่งเรื่องเป็นชู้ที่ศาลครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี 2. ดำเนินคดีเรื่องวินัยให้มีผลไล่ออกทันที ตนอยากให้หน่วยงานที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องมีคำสั่งออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง

มูลนิธิฯ จึงขอเรียกร้องให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ เร่งรัดการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และดำเนินการโดยเคร่งครัด เพื่อฟื้นฟูศรัทธาต่อระบบการศึกษาของไทยเรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง