เสียหาย 20 ล้าน เจ้าของปั๊ม ปตท. ศรีสะเกษ ยื่นหนังสือถึง 4 หน่วยงาน

เสียหาย 20 ล้าน เจ้าของปั๊ม ปตท. ศรีสะเกษ ยื่นหนังสือถึง 4 หน่วยงาน

View icon 418
วันที่ 4 ส.ค. 2568 | 12.02 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าของปั๊ม ปตท. ศรีสะเกษ ยื่นหนังสือถึง 4 หน่วยงานหลัก เขมรยิงถล่มชายแดน เสียหายกว่า 20 ล้าน วอนเร่งเยียวยา ขั้นตอนการจ่ายค่าสินไหม ตามกรมธรรม์ กระบวนการไม่ควรนานเกิน 45 วัน

วันนี้ (4 ส.ค. 68) ที่กระทรวงพลังงาน เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ตำบลบ้านผือ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิตและกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ได้เดินทางมายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 4 แห่ง เพื่อขอให้เข้ามาเร่งรัดการช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในแนวชายแดน

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 มีการยิงระเบิดจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ทำให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งตัวอาคาร ร้านค้า และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุระเบิด

แม้เหตุการณ์จะสงบลงแล้ว แต่ผู้ได้รับผลกระทบหลายคน ยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวมีการทำประกันภัยไว้ครบถ้วน ทั้งในส่วนของประกันทรัพย์สินและประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก แต่ปัญหาสำคัญคือการตีความข้อยกเว้นในกรมธรรม์ ซึ่งมักอ้างว่า “เหตุสงคราม” ไม่อยู่ในความคุ้มครอง

หน่วยงาน คปภ. ได้ออกมาชี้แจงชัดเจนว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างทหารของสองประเทศในแนวชายแดน ไม่ถือว่าเป็น “สงคราม” หรือ “การรุกราน” ตามหลักเกณฑ์ของกรมธรรม์ประกันภัย แต่เป็นเพียงเหตุการณ์ปะทะเฉพาะพื้นที่และช่วงเวลา จึงไม่ควรเป็นเหตุให้บริษัทประกันปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยย้ำว่ากรมธรรม์ที่ประชาชนทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันทรัพย์สิน ต้องยังคงความคุ้มครอง และบริษัทประกันต้องชดใช้ค่าสินไหมตามสัญญา

เบื้องต้นพบว่าปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหายมีการทำประกันไว้ 2 ประเภท ได้แก่ ประกันทรัพย์สิน ซึ่งครอบคลุมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ และประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ซึ่งครอบคลุมกรณีมีบุคคลภายนอกได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยว่าในบางส่วนของความเสียหายอาจยังไม่ครอบคลุมชัดเจน และต้องการให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะบริษัทประกันภัย และบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ปตท. และเซเว่นอีเลฟเว่น เข้ามาเร่งให้คำตอบโดยเร็ว

ในระหว่างการยื่นหนังสือ ตัวแทนกระทรวงพลังงานระบุว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เร่งหาทางออก ทั้งในแง่การเยียวยาในระยะสั้น และการหาบทเรียนเพื่อวางแนวทางในอนาคต เนื่องจากเหตุในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นอีกกับกิจการคนไทยที่ตั้งอยู่ในแนวชายแดน หากรัฐไม่แสดงบทบาท อาจทำให้ประชาชนรู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองโดยไม่มีใครเหลียวแล

ด้านเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ธุรกิจที่ทำอยู่เป็นกิจการในครอบครัวที่ต้องกู้เงินมาลงทุน การถูกยิงถล่มในลักษณะนี้สร้างความเสียหายไม่ใช่เพียงแค่ทรัพย์สิน แต่ยังทำให้พนักงานขาดรายได้ ลูกค้าสูญเสียแหล่งบริการ และชุมชนต้องขาดสาธารณูปโภคพื้นฐาน แม้ตนไม่ได้สูญเสียชีวิต แต่สิ่งที่เสียไปคือความมั่นคงในชีวิตและความหวัง พร้อมยืนยันว่าจะยังคงเปิดปั๊มในพื้นที่เดิมเพื่อไม่ทอดทิ้งคนในชุมชน

สำหรับยอดความเสียหายจากเหตุระเบิดประเมินไว้ล่าสุดไม่ต่ำกว่า 20.1 ล้านบาท ขณะที่ฝ่าย คปภ. ระบุว่าการดำเนินงานกับบริษัทประกันอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ และขอเวลารวบรวมข้อมูลก่อนสรุปขั้นตอนการจ่ายค่าสินไหม โดยกระบวนการทั้งหมดไม่ควรใช้เวลานานเกิน 45 วัน แต่ย้ำว่าจะพยายามเร่งรัดให้เร็วกว่านั้น

นอกจากตัวแทนกระทรวงพลังงานและ คปภ. แล้ว ผู้บริหารจากบริษัท ปตท. ได้เข้าร่วมรับฟังและรับมอบหนังสือในครั้งนี้ด้วยโดยฝ่ายผู้เสียหายเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานร่วมกันกำหนดกรอบเวลาและแนวทางในการเยียวยาให้ชัดเจน ไม่ปล่อยให้ภาคเอกชนล่าช้า เพราะประชาชนที่ได้รับผลกระทบกำลังรอความหวังจากภาครัฐและบริษัทที่เกี่ยวข้อง