เช้านี้ที่หมอชิต - แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำพื้นที่ช่องอานม้า เป็นอธิปไตยของไทย หลังจากนี้จะไม่ยอมให้กัมพูชารุกล้ำ วานนี้ส่งรถแทรกเตอร์เข้าเคลียร์พื้นที่ และทำลายสิ่งปลูกสร้าง
ทำลายทุ่นระเบิด-สิ่งปลูกสร้างรุกล้ำอธิปไตย จ.อุบลราชธานี
ทหารกัมพูชา ได้เข้ามาโวยวายขณะที่ ทหารไทย นำรถแทรกเตอร์เข้าไถพื้นที่บริเวณช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อทำลายทุ่นระเบิดกัมพูชาที่ลักลอบวางไว้
ทหารไทย ยังได้ทำลายสิ่งปลูกสร้างของชาวกัมพูชาที่มาตั้งรกราก สร้างบ้านเรือนกว่า 80 หลังคาเรือน ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ละเมิดข้อตกลง MOU 43 ที่ผ่านมา ทางการไทยประท้วงมาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเมินเฉย
แต่เมื่อทหารไทยสามารถยึดพื้นที่ดังกล่าว ได้ก่อนเส้นตายหยุดยิง เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมล้อมลวดหนามเอาไว้
"มทภ.2" ย้ำ "ช่องอานม้า" อธิปไตยของไทย
พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่าจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทย แต่ในอดีตกัมพูชารุกล้ำเข้ามาสร้างอนุสาวรีย์ตาอม สร้างชุมชน ตลาด หลังจากนี้ไปจะไม่ยอมให้มีการละเมิดข้อตกลงนี้อีก
"กัมพูชา" ขอไทยรื้อลวดหนามที่ "ช่องอานม้า"
ด้าน พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ก่อนหน้านี้ แถลงข่าวกล่าวหาว่า ฝ่ายไทยส่งกำลังติดอาวุธ พร้อมยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่ "อานแซะ" ดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ เรียกร้องให้ฝ่ายไทยยุติการกระทำที่เป็นศัตรู ให้รื้อถอนรั้วลวดหนาม ถอนทหารออกจากดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาโดยทันที และยังเรียกร้องให้ประชาคมโลก โดยเฉพาะชาติพันธมิตร เรียกร้องให้ไทยหยุดการกระทำที่ก้าวร้าว เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อตกลงหยุดยิง
ทหารกัมพูชา ลักลอบรื้อลวดหนาม "ช่องอานม้า"
จากนั้นในช่วงเย็น ทหารกัมพูชา 5 นาย ได้ลักลอบเข้ามารื้อลวดหนามที่ทหารไทยวางไว้ บริเวณตลาดช่องอานม้า ภายหลังเครื่องจักรหนักของฝ่ายไทยหยุดทำงานช่วงบ่าย ฝ่ายกัมพูชา อ้างว่า นี่คือดินแดนของตนเอง
ในระหว่างนั้น ทหารพรานของไทย สั่งให้ทหารกัมพูชายุติการกระทำ ให้ถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ หลังจากนั้น ทหารพรานไทย ได้วางรั้วลวดหนาม กลับคืนสู่สภาพเดิม และยังตรึงกำลังอยู่ที่ฐานปฏิบัติการ
