ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลายหน่วยงานเข้าเยี่ยมบ้าน ไปให้กำลังใจครอบครัวของทหารนาวิกโยธินที่บาดเจ็บเหยียบทุ่นระเบิด ที่แนวรบบ้านสามหลัง ชายแดนจังหวัดตราด
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจ กองเรือยุทธการ 642 เชิญแจกันดอกไม้ กระเช้า และถุงพระราชทาน ไปมอบแก่ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา หน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธินตราด กองทัพเรือ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขวาขาด จากเหตุเหยียบทุ่นระเบิด ขณะปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังทำการลาดตระเวน บริเวณบ้านสามหลัง บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมืองฯ จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลพระปกเกล้า อำเภอเมืองฯ จังหวัดจันทบุรี
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกเจริญ ตำบลสะแกซำ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา หรือ จ่าเหิน ทหารช่าง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ที่เหยียบทุ่นระเบิด สูญเสียขาเป็นนายที่ 8 ขณะลาดตระเวนที่บ้านสามหลัง บริเวณบ้านหนองรี ชายแดนจังหวัดตราด
หน่วยงานราชการได้มอบนมและผ้าอ้อมสำเร็จรูป ให้แม่ของจ่าเหิน ที่ป่วยติดเตียง แต่ไม่ได้แจ้งข่าวอาการบาดเจ็บของลูกชาย เพื่อไม่ให้กระทบกระทือนสภาพจิตใจของแม่
ส่วน ร้อยตรี วิสิฐศักดิ์ ผมนะรา อายุ 65 ปี อดีตทหารสังกัดค่ายกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 พ่อของจ่าเหิน บอกว่า ในฐานะที่พ่อเป็นทหารมาก่อน ก็ทำใจไว้อยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พ่อไม่อยากให้เจรจา อยากให้รบให้จบสิ้นไป
ขณะที่ พี่ชายของ จ่าเหิน บอกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้อง ไม่มีใครกล้าบอกแม่ เพราะแม่ป่วยติดเตียง ไม่แข็งแรง ก็กลัวว่าแม่จะเสียใจ เพราะแม่รักและห่วงน้องชายมาก
ที่ผ่านมาน้องก็ได้กลับมาหาพ่อแม่ที่บ้าน ส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้ออยากให้จบเร็ว ๆ เพราะทหารไทยก็เสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะหลายนายแล้ว ไม่อยากให้ต้องเกิดการสูญเสียอีก ส่วนเหตุการณ์ที่น้องเหยียบกับระเบิดขาขาด ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เชื่อว่าฝ่ายกัมพูชาจงใจวางทุ่นระเบิด
อัปเดตอาการล่าสุดของจ่าเหิน หลังผลการผ่าตัดรักษาบาดแผลที่ขา เป็นที่น่าพอใจของแพทย์ และอาการปลอดภัยแล้ว มีรายงานว่า จะส่งตัวจ่าเหิน จากโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี ไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพต่อไป