ตำรวจ สภ.ลำดวน ไม่เชื่อคำให้การ ชายชาวกัมพูชา ที่มีเครื่องแบบทหารเขมรชุด BHQ อ้าง ปลดประจำการทหารเขมรแล้ว และไม่ได้มาเป็นสายลับให้เขมร มาอยู่ไทยก็เพราะมาอยู่กับเมีย ขณะที่ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก มีการเดินทางระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นประจำ
วันที่ 6 ส.ค.68 หลังจากตำรวจ สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ตามไปควบคุมตัวนายวิน อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ที่บ้านโคกสูง หมู่ที่ 9 ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวจอย อายุ 27 ปี ภรรยานายวิน ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืน 1 กระบอก และชุดทหารเขมร ยศร้อยเอก และติดตราสัญลักษณ์ BHQ คล้ายกับชุดขององครักษ์พิทักษ์ ฮุน เซน อีกหลายชุด เบื้องต้น ตำรวจหวั่น ชายคนดังกล่าวอาจมาฝังตัวส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา
ข้อมูลจาก พ.ต.อ.อัษฎไณย ป้องกัน ผกก.สภ.ลำดวน พบว่าก่อนหน้านี้ มีคำสั่งให้เอ็กซ์เรย์คนต่างด้าวในเขตพื้นที่ กระทั่งไปพบความผิดปกติของสามีภรรยาคู่นี้ว่า ทั้งสองคนไม่ได้ทำงาน แต่มีอยู่มีกินเหมือนชาวบ้านทั่วไป
ซึ่งจากการสอบสวนนายวิน เบื้องต้น ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มาเป็นสายลับให้เขมร ยอมรับเพียงว่า เคยเป็นทหารและออกจากการเป็นทหารมาเมื่อปี 2564 แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีการเดินทางระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นประจำ โดยเฉพาะล่าสุด เพิ่งกลับมาเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการปะทะกัน โดยหลังจากนี้จะต้องรอทหารมาสอบปากคำนายวิน อีกครั้ง
สอบถามนางสาวจอย ภรรยานายวิน ถึงเครื่องแบบทหารเขมร และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับนายวิน น.ส.จอย เผยว่า เครื่องแบบทหาร ตนไม่รู้ว่าสามีเอามาจากไหน เป็นทหารหรือไม่ก็ไม่รู้ ต้องถามสามีเอง ข้ามมาฝั่งไทยถูกกฎหมายหรือไม่ น.ส.จอย ก็ตอบเหมือนเดิมคือ ไม่รู้
น.ส.จอย เล่าเพียงว่ารู้จักกับนายวิน เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ที่บาร์โฮส พัทยา อยู่กินด้วยมีลูกชายด้วยกัน 1 คนอายุ 1 ปีเศษ เขาเคยเล่าให้ฟังว่าเคยฝึกทหารมาแค่นั้น ยอมรับว่าสามีไปๆ มาๆ ระหว่างกัมพูชา กับเมืองไทย และล่าสุดเพิ่งกลับมาเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า น.ส.จอย ว่านายวิน สามีกับตัวเองได้ทำงานอะไรหรือไม่ระหว่างที่มาอยู่บุรีรัมย์ ได้ประมาณ 1 ปี น.ส.จอย ตอบว่า ”ไม่ได้ทำอะไร”