ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ต้องสงสัย เป็นทหารหน่วย BHQ ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ
ภาพโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก สภ.ลำดวน ภ.จว.บุรีรัมย์ มีข้อความว่า ตำรวจ สภ.ลำดวน โดยพันตำรวจเอก อัษฎไณย์ ป้องกัน ผู้กำกับการ สภ.ลำดวน นำกำลังเข้าจับกุมชายอายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลาง เครื่องแบบที่มีตราทหารหน่วย BHQ หรือกองกำลังพิทักษ์ฮุนเซน หลายชุด และมีเสื้อกั๊ก หมวกติดตราสัญลักษณ์ BHQ และพบอาวุธปืน 1 กระบอก ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในตำบลศรีภูมิ อำเภอกะสัง จังหวัดบุรีรัมย์
นอกจากนี้ยังพบรูปหลักฐานหลายรูปในโทรศัพท์ชายคนนี้ โดยเป็นรูปสวมเครื่องแบบ และถ่ายคู่อาวุธปืนกับทหารนายอื่น
ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่าจับกุมชายต้องสงสัยเป็นทหารกัมพูชาจริง โดยผู้ต้องหาอ้างว่าบ้านที่ถูกจับกุมตัวได้เป็นบ้านภรรยาชาวไทย แต่ตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ และยังสอบปากคำอยู่ เนื่องจากหากชายคนดังกล่าว เป็นทหารที่ลอบเข้ามาไทยเพื่อหาข้อมูลและสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในฝั่งประเทศไทย อาจส่งผลต่อความมั่นคง
เช้าวันนี้ ตำรวจยังควบคุมตัวชายคนดังกล่าวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องขัง ของ สภ.ลำดวน และจากการสอบปากคำ ชายคนดังกล่าวก็ให้การปฏิเสธไม่ได้เป็นสายลับให้กัมพูชา แต่ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเคยเป็นทหารจริง และได้ลาออกมาตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าชายคนนี้เดินทางเข้า-ออกชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นประจำ ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนทหารปะทะกัน ก็เพิ่งเดินทางเข้ามาไทย ทำให้ขณะนี้ต้องรอให้ทหารสอบปากคำชายคนนี้อีกครั้ง
นอกจากนี้ ตำรวจเชิญ หญิง อายุ 27 ปี ชาวอำเภอกระสัง ซึ่งเป็นภรรยาชายชาวกัมพูชา ไปสอบสวน โดยเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่รู้ว่าสามีเป็นทหารกัมพูชาหรือไม่ แต่เคยเล่าให้ฟังว่าเคยฝึกทหารมาเท่านั้น ก็ไม่รู้ว่าเอาเครื่องแบบทหารเขมรมาจากไหน และสามีที่คบหากันมานาน 3 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ ก็ไม่ได้ทำงานอะไร
BHQ ย่อมาจาก Bodyguard Headquarters, ซึ่งเป็นชื่อหน่วยงานรักษาความปลอดภัยระดับสูงของกัมพูชา เป็นหน่วยทหารพิเศษที่ขึ้นตรงกับกองทัพกัมพูชา หน่วยงานนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นหน่วยองครักษ์พิเศษของอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา "สมเด็จฯ ฮุนเซน"
โดย BHQ มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันผู้นำ รวมถึงมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น การสลายการชุมนุม การควบคุมสื่อ และการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม หน่วยงานนี้ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นกองกำลังที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจในการเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องขออนุญาตจากกองทัพ