Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2568
1.กัมพูชาประณาม กรณีไทยจ่อดำเนินคดีทางกฎหมาย
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ประณามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งแพ่งและอาญากับกัมพูชา ฐานใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์รุกรานอธิปไตยของไทยจนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพล และทางราชการ
ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศฯ กัมพูชา กล่าวว่า ผิดหวังกับการดำเนินการทางกฎหมายของไทย ซึ่งไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของทั้งพลเมืองไทยและสาธารณชนทั่วโลก จากนโยบายที่เป็นปรปักษ์ของไทย และการโจมตีทางทหารที่ผิดกฎหมายต่อดินแดนกัมพูชา
2.รำลึกครบรอบ 80 ปี ทิ้งระเบิดปรมาณูเมืองฮิโรชิมะ
นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น และตัวแทนจาก 120 ประเทศทั่้วโลก ยืนไว้อาลัยและวางดอกไม้ในงานรำลึกถึงผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ในเช้าวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิดทันที และจากสารกัมมันตภาพรังสีในเวลาต่อมา รวมประมาณ 140,000-200,000 คน ซึ่งปีนี้เป็นโอกาสครบ 80 ปี
ทางผู้จัดงานย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสันติภาพ และคนรุ่นหลังควรเรียนรู้ภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียครั้งใหญ่แบบนี้อีก
ทั้งนี้ หลังกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูใส่เมืองฮิโรชิมะแล้ว อีก 3 วันถัดมาได้ทิ้งระเบิดถล่มเมืองนางาซากิ มีผู้เสียชีวิตอีกราว 60,000-80,000 คน และทำให้ญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนในสงครามโลกครั้งที่ 2
3."ทรัมป์" ขู่ยึดอำนาจรัฐบาลท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โพสต์ข้อความขู่จะยึดอำนาจการบริหารกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จากรัฐบาลท้องถิ่น หากยังไม่แก้ไขกฎหมายให้เยาวชนอายุตั้งแต่ 14 ปี ที่ก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรง ต้องรับโทษเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย
โดย “ทรัมป์” ให้เหตุผลว่า อาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชักหนักข้อเกินการควบคุมแล้ว สมาชิกแก๊งในท้องถิ่นบางคนอายุเพียง 14-16 ปี แต่ลงมือทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ และยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยไม่กลัวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เพราะรู้ว่าตนจะไม่ต้องรับโทษเนื่องจากเป็นเยาวชน จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไขกฎหมายกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อดำเนินคดีกับ "อาชญากรเยาวชน" เหล่านี้ในฐานะผู้ใหญ่
4.สหรัฐฯ จ่อเก็บ “เงินประกันวีซา” สูงสุดเกือบ 5 แสนบาท
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป พลเมืองชาวแซมเบียและมาลาวี ที่ยื่นขอวีซาเข้าสหรัฐฯ เพื่อทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว หากได้รับอนุมัติวีซาแล้วจะต้องชำระเงินประกัน ตั้งแต่ 5,000, 10,000 ถึงสูงสุด 15,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือตั้งแต่ประมาณ 165,000 บาท, 330,000 บาท จนถึงสูงสุด 495,000 บาท
โดยจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ กำหนดจำนวนเงิน ณ เวลาสัมภาษณ์ขอวีซา ซึ่งผู้ที่มาจากประเทศที่มีอัตราการอยู่เกินกำหนดวีซาสูง มีแนวโน้มถูกเก็บเงินประกันในอัตราสูงที่สุด แต่จะได้รับเงินประกันคืนหากเดินทางออกจากสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากละเมิดสถานะวีซาหรืออยู่เกินกำหนดก็จะถูกริบเงินประกันทันที ขณะที่ ทางการสหรัฐฯ จะมีการอัพเดตรายชื่อประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ผู้ถือวีซาชนิดเก็บเงินประกันจะต้องเดินทางเข้าและออกจากสหรัฐฯ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง 3 แห่ง ได้แก่ที่ สนามบินโลแกน เมืองบอสตัน, สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก และสนามบินดัลเลส กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเตือนว่าหากเดินทางมาถึงหรือเดินทางออกจากที่อื่น อาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หรือไม่ได้รับการบันทึกการเดินทางออกนอกประเทศ
5.ดินโคลนถล่มทางเหนือของอินเดีย สูญหายกว่า 100 คน
จากปรากฏการณ์ "คลาวด์เบิร์สต์" (Cloudburst) หรือฝนตกหนักอย่างฉับพลันในบริเวณพื้นที่เล็ก ๆ เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่ตกลงมากระหน่ำในหมู่บ้านดาราลี รัฐอุตตราขัณฑ์ ในเขตเทือกเขาหิมาลัยทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม ทำให้อาคารบ้านเรือนจมอยู่ใต้ดินโคลน
ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน สูญหายอีกกว่า 100 คน ขณะเดียวกัน ทางการได้อพยพผู้ประสบภัยออกมาได้แล้วราว 130 คน พร้อมเร่งค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยจัดการภัยพิบัติ รวมทั้งทหาร เข้าไปช่วยในภารกิจครั้งนี้แล้ว แต่ปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่วนถนนที่มุ่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพังถล่มหรือถูกปิดกั้นด้วยก้อนหิน ทำให้การเข้าถึงทำได้ยาก
