ข่าวภาคค่ำ - แม้กรรมการ GBC ไทย-กัมพูชา จะลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ถูกยกไปหารือในการประชุมครั้งต่อไป
กัมพูชาไม่ตอบรับ กู้ทุ่นระเบิด ปราบแก๊งคอลเซนเตอร์
วันนี้มีข้อตกลงร่วมกัน จำนวน 13 ข้อ ที่ลงนามโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมไทย และ พลเอก เตีย เสฮา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แต่มี 2 เรื่องที่ฝ่ายกัมพูชา ยังไม่ตอบรับ คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียด จนนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน
อีกเรื่อง คือความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ หรือ การปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งส่งผลต่อประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง โดยทั้ง 2 เรื่องนี้ถูกยกไปหารือในการประชุม GBC อีก 1 เดือนข้างหน้า
นักวิชาการ มองกัมพูชา ยังไว้ใจไม่ได้
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศและความมั่นคง บอกว่าหลังจากนี้ ต้องรอดูว่ากัมพูชา จะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจต้องเพิ่มมาตรการกดดันต่าง ๆ เพิ่มเติม ภายใต้กลไกของอาเซียน การไว้เนื้อเชื่อใจกันในทางการทูตเป็นเรื่องปกติ แต่ในทางปฏิบัติจริง ไม่สามารถไว้วางใจกันได้ทั้งหมด ควรมีกลไกเสริมเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุด
พลเอก วีรชน สุคนธปฏิภาค อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การพูดคุยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักคือนำความสงบมาสู่ชายแดน ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงเดิม มากที่สุด เหลือเพียงความเสียหายที่ทิ้งไว้ แต่จะไม่เกิดความรุนแรง ลดความขัดแย้ง เกิดความสงบ ประชาชนปลอดภัย และสร้างขวัญกำลังใจให้คนในพื้นที่ ส่วนการเจรจาและข้อตกลงอื่น ๆ เป็นเรื่องของอนาคตสิ่งสำคัญคือถ้าฝ่ายกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามก็ไม่มีประโยชน์