สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ทหารไทย ต้องสูญเสียขาเป็นนายที่ 4 แล้ว บ่งชี้ให้นานาชาติเห็นชัดว่า กัมพูชา ใช้อาวุธในลักษณะของการ "ซ่อนรูป"
ทุ่นระเบิดยังทำงาน หลังเจรจาหยุดยิง
เมื่อวานนี้ เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความแจ้งข่าวว่า กำลังพล ร้อย ร.111 ลาดตระเวนพื้นที่ เหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่
1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ข้อเท้าซ้ายขาด
2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ บาดเจ็บที่แขน และด้านหลัง
3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ โดนแรงอัด และเจ็บแก้วหู
เหตุเกิดขณะที่จ่าสิบเอก ธานี นำกำลังพล 2 นาย ลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่รอยต่อช่องโดนเอาว์-กฤษณา บริเวณภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ
หลังเหตุระเบิด ทั้ง 3 นาย ส่งเข้ารักษาโรงพยาบาลสนาม ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์กองทัพบก จะรีบนำตัวจ่าสิบเอก ธานี ส่งต่อมาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และพลทหาร อีก 2 นาย มากับรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อมาเขารับการรักษาที่เดียวกัน
กำลังใจจากครอบครัว พาหา
ส่วนครอบครัวที่รู้ข่าว ต้องปิดบ้านและรีบเดินทางมาจากจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อมาดูอาการจ่าสิบเอก ธานี พอรู้ว่าพ้นขีดอันตราย ทุกคนถึงกับโล่งใจ แม้จะสูญเสียขา แต่ก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ซึ่งทุกคนก็ยังแอบเป็นห่วง เพราะจ่าสิบเอก ธานี วางแผนจะแต่งงานกับแฟนสาว หลังสถานการณ์สู้รบยุติลง คาดกันว่า อาจะต้องเลื่อนวันดูฤกษ์ดูยามออกไปก่อน
ถ้านับตั้งแต่ก่อนการปะทะ และหลังการปะทะ ทหารไทยต้องสูญเสียขาไปถึง 4 นาย
16 กรกฎาคม ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ที่เนิน 481 ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ขาขาด
23 กรกฎาคม 2568 หรือ 1 วัน ก่อนกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ไทย จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า เหยียบทุ่นระเบิดขาขาด ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี
ครั้งที่ 3 คือ วันเจรจาหยุดยิง 28 สิงหาคม 2568 ร้อยตรีเกียรติวงศ์ สถาวร หรือ "หมวดบุ๊ค" เหยียบทุ่นระเบิดขาขาด ที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์
CMAA โต้ไทย กล่าวหาวางทุ่นระเบิด
วันเดียวกัน หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อและปฏิบัติการทุ่นเระเบิดแห่งกัมพูชา หรือ CMAA ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ ระบุ "ขอโต้แย้ง" ข้อกล่าวหาว่า กัมพูชามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิดในครั้งนี้ ย้ำจุดยืนชัดเจน จะไม่วางทุ่นระเบิดใหม่ และยังเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพข้อตกลงที่ให้ไว้ในการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะข้อตกลงที่จะรักษาตำแหน่งกำลังทหารในปัจจุบันและหยุดการลาดตระเวนเพิ่มเติมในดินแดนของกันและกัน
ในแถลงการณ์ ระบุด้วยว่า “ข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงที่จะทำลายเจตนารมณ์ของความร่วมมือที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้การหยุดยิงเท่านั้น แต่ยังคุกคามที่จะทำลายความไว้วางใจในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์มากที่สุด”
ฟ้องด้วยหลักฐาน กัมพูชา วางทุ่นระเบิด
คำแถลงการณ์ฉบับนี้ ถูกหักล้างทันที เมื่อเพจเฟซบุ๊ก กองทัพบกทันกระแส โพสต์รูปภาพทหารไทย เก็บกวาดสนามรบ บริเวณภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ฐานที่มั่นเดิมของกัมพูชา พบสรรพาวุธจำนวนมาก โดยเฉพาะทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ตรวจสอบพบมากกว่า 18 ทุ่น แบ่งเป็น 16 ทุ่น บรรจุอยู่ในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด และอีก 2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วนโดยไม่ฝังกลบ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด ซึ่งหน่วยทหารช่างได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 18 ทุ่นเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และลูกจรวด RPG จำนวนมาก ซึ่งจากหลักฐานดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างชัดเจน
กัมพูชา โกงเงินนานาชาติ วางทุ่นระเบิด
เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้สะท้อนให้เห็นว่า กัมพูชากำลังโกงเงินจากนานาชาติ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา มีเงินสนับสนุนจากหลายนานาชาติ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น หรือสหประชาชาติ ผ่านโครงการกำจัดทุ่นระเบิด และช่วยเหลือเหยื่อ
ตอนนี้ประจักษ์แล้วว่า หยาดเหงื่อจากหลายองค์กรที่ลงทุนไปสูญเปล่า
ขอบคุณภาพจาก : Facebook กองทัพบก ทันกระแส