สถานการณ์ชายแดนมีแนวโน้มคลี่คลาย

View icon 79
วันที่ 11 ส.ค. 2568 | 06.08 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกแถลงการณ์ว่ามีแนวโน้มคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) โดยปัจจุบันมีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการประชุม GBC ซึ่งฝ่ายไทยมีความต้องการลดความตึงเครียด และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยอย่างเต็มขีดความสามารถ

ส่วนการดูแลผู้อพยพ ขณะนี้หลายพื้นที่มีความปลอดภัยเพียงพอในการให้เดินทางกลับภูมิลำเนา ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ โดยปัจจุบันยังมีผู้อพยพอาศัยในศูนย์พักพิง 17 ศูนย์ 1,173 คน ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางพื้นที่ที่หลงเหลือวัตถุระเบิด หรือวัตถุต้องสงสัยตกค้าง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ และเก็บกู้จากเจ้าหน้าที่ หากประชาชนพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้งฝ่ายปกครองหรือตำรวจได้ทันที เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาดำเนินการ

ล่าสุดมีข้อมูลจาก กองบัญชาการกองทัพไทย รายงานว่า ในระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ จำนวน 15 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดจากการโจมตีของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด รวม 384 รายการ ทั้งจรวด BM-21, กระสุนปืนใหญ่, ลูกระเบิด ค. และวัตถุระเบิดชนิดอื่น

ส่วนกระแสข่าวลือที่อ้างว่า มีทหารกัมพูชาหลายหมื่นนาย เคลื่อนพลเข้ามาบริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี จนทำให้หลายฝ่ายกังวลใจ ล่าสุด เพจกองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ข้อความของพลตรีวีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่ช่องอานม้าว่า สถานการณ์ปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามภารกิจติดตามความมั่นคงชายแดน และได้ตรวจสอบกับหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ