โฆษก ศบ.ทก.รับใกล้ยุติบทบาท ศบ.ทก.สัปดาห์นี้ และใช้กลไกหลักดำเนินการแทน แต่หากเกิดเหตุการณ์สามารถกลับมาใหม่ได้ ชี้สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นอยู่ภายใต้ภาวะที่ควบคุมได้ เชื่อการยุติเป็นการแสดงความจริงใจให้กัมพูชาได้เห็น
วันนี้ (13 ส.ค.68) พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ ชายแดนไทย - กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า เตรียมยุติบทบาทของ ศบ.ทก.นั้น
พลเรือตรี สุรสันต์ ยอมรับว่า อาจจะเป็นไปตามที่นายภูมิธรรม ได้พูดไว้ที่จะมีแนวโน้มในการยุติบทบาทของ ศบ.ทก. ในเร็ววันนี้ เพราะเท่าที่ตนทราบสถานการณ์ตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมได้ และมีกลไก มีหน่วยงานหลักที่สามารถดำเนินการได้ไม่ว่า จะเป็นกระทรวงมหาดไทย และกองทัพต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการดำเนินการสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ และทุกหน่วยก็รู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้วว่า ต้องทำอย่างไร และเรายังมีกลไกที่เรียกว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ในการกำกับดูแลภาพรวมของความมั่นคงอยู่ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะยุติบทบาทของ ศบ.ทก. ในเร็ววันนี้ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ก็ยังมีการประชุม ศบ.ทก. อยู่ และจะมีการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันศุกร์นี้ (15 ส.ค.)
เมื่อถามว่า การยุติบทบาทของ ศบ.ทก. จะนำเข้าวาระที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันศุกร์นี้เลยหรือไม่ พลเรือตรีสุรสันต์ ระบุว่า ตนไม่แน่ใจเพราะไม่ได้นั่งอยู่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เป็นสภาวะที่เรียกว่า ควบคุมได้ และมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบอยู่แล้วในเรื่องของการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็มีกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดที่คอยดูแล ฉะนั้นบทบาทของศบ.ทก. อาจจะต้องค่อย ๆ ถอยออกไป
ส่วนจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับกัมพูชาที่ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ยังมีการสื่อสารตลอดเวลากับนานาชาติ พลเรือตรีสุรสันต์ ระบุว่า ตนมองว่า การที่การยุติบทบาท ศบ.ทก. อีกทางหนึ่งก็เป็นเหมือนการแสดงความจริงใจว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมได้ไม่จำเป็นต้องกลไกของศบ.ทก. ที่จะมาคุมอีกทีหนึ่ง เดิมที่มี ศบ.ทก. มาเพราะเป็นวาระเร่งด่วนเป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงแรก เป็นช่วงที่ทุกคนอาจจะยังไม่แน่ใจในเรื่องกลไก และหน้าที่ของตัวเอง ฉะนั้น ศบ.ทก. จึงมาเพื่อบูรณาการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นเอกภาพซึ่งช่วงแรกสถานการณ์ก็ดีขึ้น จนมาถึงเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิด ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนไปถึงเรื่องการประทะกัน แต่หลังจากการลงนาม GBC แล้วกว่า ส่อไปไปในทิศทางที่ดีขึ้น เรื่องของการพูดคุยที่มากขึ้น อย่างที่เห็นการประชุม RBC ก็จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานในภูมิภาคที่จะรับผิดชอบ
ส่วนปัญหาไทยกัมพูชาได้ยกระดับเป็นปัญหาระหว่างประเทศทำให้ ศบ.ทก. จึงไม่มีบทบาทใช่หรือไม่ พลเรือตรี สุรสันต์ กล่าวว่า เป็นปัญหาระหว่างประเทศอยู่แล้วที่ทุกคนก็เห็น อย่างไทย-กัมพูชา ก็มีกลไก RBC-GBC -JBC ที่เป็นกลไกหลักทำงานกัน เรามองว่า การแก้ไขปัญหาท้ายที่สุดแล้วจะให้ยั่งยืนต้องผ่านการเจรจาผ่านการพูดคุย ลำพังการใช้กำลังไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และยังคงเป็นปัญหาอยู่ ฉะนั้นจึงต้องใช้กลไกเจรจาจึงดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม พลตรีสุรสันต์ คงสิริ ยืนยันว่า การยุติบทบาทของ ศบ.ทก.ไม่ใช่การยุบไปเลย แต่สามารถกลับมาดำเนินการใหม่ได้อีกครั้งหากมีสถานการณ์เกิดขึ้น