ประชุม ศบ.ทก. นัดสุดท้าย บิ๊กเล็กเผยเห็นชอบสร้างรั้วบ้านหนองจาน

ประชุม ศบ.ทก. นัดสุดท้าย บิ๊กเล็กเผยเห็นชอบสร้างรั้วบ้านหนองจาน

View icon 148
วันที่ 5 ก.ย. 2568 | 11.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“บิ๊กเล็ก”  ประชุม ศบ.ทก.ครั้งสุดท้าย  หารือประเด็นที่จะนำเข้าประชุม GBC ยอมรับหนักใจประชุมช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ยืนยันเห็นชอบสร้างรั้วบ้านหนองจาน ที่ปรึกษาห่วงสร้างรั้วบนตลิ่ง เขมรอาจทึกทักยึดทั้งลำคลอง ต้องตกลงให้ชัด ไทยขอสงวนสิทธิใช้พื้นที่กลางลำคลอง

วันนี้ (5 ก.ย.68) พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า จะพิจารณาเรื่องที่จะนำไปประชุม  GBC  ที่จะมีการประชุมในวันที่ 10 ก.ย.68 และเรื่องที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาความมั่นคง (สมช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเรื่องการสร้างรั้วบริเวณบ้านหนองจาน ศบ.ทก. เห็นชอบในหลักการ โดยให้ สมช. พิจารณาในรายละเอียด 

พลเอกณัฐพล บอกว่า การสร้างรั้วไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า เขตแดนอยู่ลำคลอง การสร้างรั้วบนตลิ่ง ทีมที่ปรึกษาได้ขอให้พิจารณาในรายละเอียด เพราะอนาคตกัมพูชาอาจจะทึกทักเอาว่า เขตแดนของไทยอยู่ที่แนวรั้ว  ซึ่งข้อเท็จจริงฝ่ายความมั่นคง บอกว่า รั้วไม่ได้หมายถึงเขตแดน แต่หมายถึงเครื่องกีดขวางทางด้านความมั่นคง  สกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ  ซึ่งที่ปรึกษาก็มีความเป็นห่วง เพราะกัมพูชาไม่ได้สนใจในรายละเอียด ดังนั้นสิ่งที่ที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ควรจะมีข้อตกลงให้ชัดเจนทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะดำเนินการ พร้อมให้คำแนะนำว่า ไทยต้องขอสงวนสิทธิ์ ในการใช้พื้นที่กลางลำคลองด้วย   ไม่เช่นนั้นแล้วกัมพูชาจะยึดทั้งหมดเป็นเขตแดนของเขา จึงอยากจะขอให้สื่อช่วยทำความเข้าใจกับสังคมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจะไปประชุม GBC ขณะที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสามารถดำเนินการได้หรือไม่ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่หนักใจพอสมควร ตนได้ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ก็คงต้องไปประชุม เพราะถ้าไม่ไปประเทศชาติจะเสียประโยชน์ ซึ่งเลขากฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศได้ให้คำแนะนำว่าประเด็นใดที่จะผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ก็ขอให้หลีกเลี่ยง ให้ประชุมเฉพาะประเด็นที่ประเทศชาติได้ประโยชน์  

เมื่อถามว่าการประชุมในวันที่ 10 ก.ย.นี้ จะไม่มีข้อสรุปเงื่อนไขเดิมที่เคยคุยไว้  พลเอกณัฐพล กล่าวว่า จะเป็นการพูดคุยเรื่องเดิมที่ยังไม่มีความคืบหน้า คือการเก็บกู้ทุนระเบิด  ปราบปรามอาชญากรรมช้ามชาติ สแกมเมอร์ และประเด็นบ้านหนองจาน   พร้อมชี้แจงว่าจะเดิมจะนำประเด็นเรื่องบ้านหนองจานไปหารือในที่ประชุม GBC แล้วนำกลับมาให้ผู้ว่าฯ จังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา คุยและจัดทำรายละเอียด ถ้าไม่มีความคืบหน้าจึงจะดำเนินการในแง่ของกฎหมาย

เมื่อวันพุธที่ 3 ก.ย.68 ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขอนำเรื่องเข้าที่ประชุม ศบ.ทก. พร้อมขอความเห็นใจ เพราะมีประชาชนไปกดดันถ้าไม่ดำเนินการใด ๆ จะแจ้งความเอาผิด มาตรา 157  ขั้นตอนก็เลยต้องสลับกัน ซึ่งที่ประชุมก็เห็นใจผู้ว่าฯ และก็ให้ดำเนินการไปก่อน โดยให้คุยกับผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ในวันที่ 8 ก.ย.68 คาบเกี่ยวกับการที่จะมีการประชุม GBC

พลเอกณัฐพล กล่าวด้วยว่า บางครั้ง ศบ.ทก. และรัฐบาลก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างที่ต้องการ หรือวางแผนไว้  ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย เมื่อประชาชนบอกว่ารอการประชุม GBC ในวันที่ 10 ก.ย.68 ไม่ได้ จึงขอให้ผู้ว่าฯสระแก้วอนุมัติดำเนินการก่อน   โดย ศบ.ทก. เห็นชอบในเบื้องต้น  จึงจะนำเข้าที่ประชุม สมช.วันนี้  เพราะไม่ทราบว่า จะมีการประชุม  ศบ.ทก.อีกหรือไม่ เพราะคำสั่งใดที่รัฐบาลเดิมแต่งตั้งไว้  เมื่อรัฐบาลสิ้นสุด ก็จะหมดไปด้วย  ยืนยันเราไม่ได้ยุบ ศบ.ทก. แต่จะสิ้นสุดไปตามรัฐบาล และวันนี้อาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย 

“การทำงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา  ผมเป็น รมช. กลาโหม ขณะที่อีกหน้าที่เป็น ผอ.ศบ.ทก. ฉะนั้นเวลาที่ผมพูดหรือคิดอะไร จะคิดในกรอบ ผอ.ศบ.ทก.ไม่ได้คิดเรื่องทหารอย่างเดียว บางครั้งสื่ออาจไม่เข้าใจว่าทำไม รมช.กลาโหม ไปคิดเรื่องอื่น ขอความกรุณา ทำความเข้าใจกับสังคมว่า กรอบที่ผมคิดคือ การใช้พลังอำนาจของชาติ ผลประโยชน์ของชาติทั้ง 6 ด้าน ทั้งการเมืองในและต่างประเทศ การทหาร เศรษฐกิจ เวลาประชุมกับกัมพูชา พยายามบอกว่าภัยจริง ๆ คือด้านเศรษฐกิจ แต่เรื่องอธิปไตยเราก็ถือเป็นลำดับแรก นอกนั้นยังคำนึงถึงสังคมจิตวิทยา ซึ่งประชาชนตามแนวชายแดนด้วยกันก็อาศัยซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ชาวกัมพูชามาซื้อของกินของใช้ในบ้านเรา คนไทยก็ซื้อของป่า เขาก็อยู่กันมาแบบนั้น รวมถึงด้านต่างประเทศ บทบาทของเรา และทัศนคติของนานาชาติที่มีต่อเรา และคิดถึงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” พลเอกณัฐพล กล่าว

พลเอกณัฐพล กล่าวอธิบายเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ตนเคยพูดว่าพลังอำนาจอีกอย่างที่สำคัญคือ  พลังอำนาจข้อมูลข่าวสาร  สื่อมวลชนประเทศไทยมีอิสระเสรี  และมีจำนวนมากหลากหลาย แต่สื่อมวลชนกัมพูชาถูกจำกัด ตนจึงมั่นใจในพลังอำนาจของสื่อไทย แต่บางครั้งตนก็คิดว่า ทำไมบางครั้งการสื่อสารของเราเป็นรองเขาในบางเรื่อง ในฐานะที่ตนจะพ้นหน้าที่ไป อยากจะฝากสื่อมวลชนไทยใช้พลังอำนาจด้านนี้ให้เต็มที่ ในการสู้กับพลังข้อมูลข่าวสารกับฝ่ายกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับการติดต่อทาบทามจากว่าที่รัฐบาลใหม่ ให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีอีกหรือไม่  พลเอกณัฐพล บอกว่า ไม่มี  และเมื่อถามต่อว่าหากได้รับการติดต่อสนใจสนใจที่จะมาช่วยงานต่อหรือไม่  พลเอกณัฐพล กล่าวว่า น่าจะมีคนที่มีความสามารถ  ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาทาบทาม คิดอย่างเดียวว่าน่าจะมีคนทำได้ดีกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง