ศบ.ทก.วอนกัมพูชา จริงใจกู้ทุ่นระเบิด

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ศบ.ทก. เรียกร้อง ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือด้านการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ที่มีกัมพูชาเป็น ผอ.ศูนย์ฯ แสดงความจริงใจในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้หมดเพื่อความปลอดภัย

ศบ.ทก.วอนกัมพูชา จริงใจกู้ทุ่นระเบิด
พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทาง ศบ.ทก. พยายามเร่งหาแนวทางในการประสานความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือความร่วมมือจากฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด เบื้องต้น ได้ประสานไปยังศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือด้านการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ซึ่งในปีนี้มีกัมพูชาเป็น ผอ.ศูนย์ฯ สนับสนุนภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน เนื่องจากยังพบว่าทหารกัมพูชายังลักลอบวางทุ่นระเบิดไว้เป็นจำนวนมาก โดยขอให้ทำงานสอดประสานกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติไทย เพื่อร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้ได้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จะพาผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน ที่มีทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะลงพื้นที่สังเกตการณ์ และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ที่ จังหวัดอุบลราชธานี

ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ บอกว่า เมื่อวานได้หารือกับประธานอาเซียน และประเทศสมาชิก เพื่อขอให้กดดันกัมพูชาแสดงความจริงใจในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพราะยังพบมีการวางใหม่ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และ อนุสัญญาออตตาวา

นอกจากนี้ ยังได้โทรศัพท์ไปคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ในฐานะประธานอนุสัญญาออตตาวาด้วย เพื่อขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ไต่สวนการกระทำของกัมพูชา

โดยวันศุกร์นี้จะมีการพูดคุยกับประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อให้เห็นถึงการดำเนินการของกัมพูชา ว่าไม่ดำเนินการตามกรอบของอนุสัญญา

ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม มองว่า การที่มีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดถึง 5 ครั้ง กลับกัน ฝั่งทหารกัมพูชาไม่มีข่าวว่าเหยียบทุ่นระเบิดเลย มันก็ชัดเจนว่าฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายวางทุ่นระเบิด ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ได้ และขอให้ชี้แจงกับคนไทยด้วยว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

ส่วนกรณีกองทัพขอใช้ยุทธวิธีทางทหารตอบโต้กัมพูชาเพื่อป้องกันตัวเองและอธิปไตยนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี บอกว่า ก็สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะกัมพูชาทำผิดอนุสัญญาออตตาวา

บช.น.ประชุมแผนรับมือ ภัยคุกคาม
ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้หลายหน่วยงานไปประชุมหารือกัน เพื่อเตรียมการรองรับเหตุที่อาจจะเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือ โดยที่แต่ละหน่วยงานจะต้องมีการกำหนดแผนเผชิญเหตุ รู้บทบาทของตัวเอง หน่วยงานไหนมีกำลังพลเท่าไร ใครต้องรับผิดชอบส่วนไหนบ้าง

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันกำหนดว่า "ภัยคุกคาม" คืออะไร เรียงลำดับหนักเบาอย่างไร เพราะแม้สถานการณ์จะเกิดขึ้นไกลออกไป 300-400 กิโลเมตร แต่ก็อาจกระทบถึงทุกคนในประเทศได้