หลายชาติในยุโรปนอกจากกำลังเผชิญกับไฟป่าที่ลุกลามอย่างหนัก ยังต้องเจอกับคลื่นความร้อนสูง ทำให้หลายพื้นที่มีอุณภูมิพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียส ชาวเมืองต้องหาวิธีคลายร้อน
อุณหภูมิในเมืองบอร์โด (Bordeaux) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ร้อนจัดจนชาวเมืองท้องถิ่นบ่นว่า "หายใจแทบไม่ออก" ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่กำลังแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยที่เมืองบอร์โด วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 41 องศาเซลเซียส ซึ่งทางการฝรั่งเศสออกประกาศเตือนคลื่นความร้อนระดับ "สีแดง" หรือระดับสูงสุด คาดว่าหลายพื้นที่ทั่วประเทศจะมีอุณภูมิพุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
ส่วนที่กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ ในช่วงบ่ายวานนี้ (12 ส.ค.) มีอุณหภูมิสูงราว 35 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งนักท่องเที่ยว พากันลงไปว่ายน้ำคลายร้อนในแม่น้ำแซน (Seine) โดยกรุงปารีสกลับมาเปิดให้ประชาชนว่ายน้ำในแม่น้ำแซนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจุดว่ายน้ำที่ทางการกรุงปารีสจัดเตรียมไว้จะเปิดไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ที่เยอรมนี ประชาชนในหลายเมือง อาทิ แฟรงก์เฟิร์ต, โคโลญ และกรุงเบอร์ลิน พากันออกจากบ้านมาหาวิธีคลายร้อน บางก็ลงไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเยอรมนีคาดว่าอุณหภูมิจะสูงต่อเนื่องไปอีกหลายวัน โดยที่กรุงเบอร์ลิน มีประชาชนพากันลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำชเปร (Spree) ซึ่งบางคนก็แค่ไปว่ายน้ำคลายร้อน แต่บางส่วนก็ตั้งใจไปประท้วงต่อต้านคำสั่งห้ามว่ายน้ำที่มีอายุกว่า 100 ปี เพราะมลพิษในแม่น้ำดังกล่าว
และที่กรุงลอนดอน อากาศร้อนกลับมาปกคลุมเมืองหลวงของอังกฤษอีกครั้งในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส หลังจากในช่วงหลายหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีอุณหภูมิอยู่ที่ราว 20 องศาเซลเซียส ทำให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างหาร่มเงาพักคลายร้อน ขณะที่ สำนักงานอุตุนิยมอังกฤษคาดว่าสภาพอากาศจะยังคงร้อนตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีแดดเป็นช่วง ๆ และอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส