สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นประธานการประชุมวิชาการ "การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568"

View icon 844
วันที่ 13 ส.ค. 2568 | 20.02 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 12.59 น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังชั้น 14 เอ็มทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ทรงเป็นประธานการประชุมวิชาการ และทอดพระเนตรนิทรรศการ "การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568" ซึ่งพระราชทานพระอนุญาตให้เชิญเหรียญสดุดีพระกรณียกิจ "ด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม และการส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย" ที่ทรงได้รับการถวายจาก นางโอเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 มาจัดแสดงฯ

รวมทั้ง จัดแสดงเครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ที่ใช้กลุ่มสีจากหนังสือ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026 หรือ หนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 6 ประกอบด้วย

"พินิจ-ชีวิต : THE GROUNDED NATURALIST" ใช้กลุ่มสีที่พบได้ตามภูมิทัศน์ธรรมชาติและสีสันที่แทรกอยู่ในรายละเอียดของพื้นแผ่นดิน เช่น สีเหลืองอ่อนของเกล็ดทราย, สีทะลายหมาก ที่สุกงอมให้สีส้ม และสีน้ำตาลเข้มจากดินปากแม่น้ำ

"อิสรชน-ผจญภัย : THE FREE SPIRIT ADVENTURER" ใช้กลุ่มสีที่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์ พืชพรรณ และรัตนชาติ หรือ หินอัญมณี เช่น ดอกดารารัตน์สีเหลืองสด มีต้นกำเนิดมาจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน, นกกระสาสีเทา ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น, อัญชัน ไม้เลื้อยดอกสีน้ำเงินสด ที่พบได้ในประเทศไทย

"รอนแรม-ลึกลับ : THE ENIGMATIC WANDERER" ใช้กลุ่มสีจากดอกไม้สัญลักษณ์แทนความเป็นหญิง มักจับคู่กับโทนสีแดง ม่วง ส้ม และชมพู เพื่อสื่อถึงเสน่ห์ชวนลึกลับ เช่น ดอกดาหลา ที่ให้สีแดงแรงฤทธิ์, ดอก/ผลดีปลี เมื่อสุกให้สีแสดสด และดอกสังกรณี ในเรื่องรามเกียรติ์ ให้สีส้มอ่อน

"กรุยทาง-สร้างฝัน : THE DYNAMIC TRAILBLAZER" ใช้กลุ่มสีจากกระบวนการเพาะปลูก ตั้งแต่การเตรียมดิน ถึงการเก็บเกี่ยว เช่น สีดินร่วนน้ำตาลเข้ม บอกถึงความอุดมสมบูรณ์, สีเขียวหม่นจากมูลช้าง สารอาหารจำเป็นต่อการเติบโตของพรรณพืช

นอกจากนี้ มีนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยม ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานรูปแบบให้เป็นชุดประจำชาติ รวม 8 แบบ ตั้งชื่อชุดตามหมู่พระที่นั่งองค์ต่าง ๆ ประกอบด้วย ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ

จากนั้น ทรงเป็นประธานการประชุมวิชาการ "การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568" ซึ่ง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เผยแพร่ และแบ่งปันองค์ความรู้เรื่องสีสันโทนไทย สีธรรมชาติบนผืนผ้า เครื่องแต่งกาย และสิ่งทอ รวมทั้ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่ผู้ที่อยู่ในวงการผ้าไทย เพื่อสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้เกิดภาพลักษณ์ที่มีความทันสมัย เกิดเป็นรายได้ให้ชุมชน เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศอย่างยั่งยืน

ในการนี้ พระราชทานหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 6 หรือ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026 ซึ่งทรงเป็นบรรณาธิการบริหาร แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย, อธิการบดีและผู้แทนมหาวิทยาลัย, สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย, ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบแฟชั่น) ประจำปีพุทธศักราช 2562 และผู้ประกอบการกลุ่มทอผ้า เพื่อนำไปมอบให้แก่นิสิต นักศึกษา ศิลปิน ผู้ประกอบการ และช่างทอผ้า นำไปเป็นแนวทางในการศึกษาและประกอบอาชีพ สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป

จากนั้น ทรงบรรยายในหัวข้อ "การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568" ร่วมกับ นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย และนายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก มีพระดำรัสถึงเนื้อหาในหนังสือฯ เล่มที่ 6 ที่พระราชทานแนวคิดว่าด้วย "อนาคตแห่งแฟชั่น : สรรค์สร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน" ที่จะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแนวทางแก่ผู้ทำงานสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นใย สิ่งทอ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ งานประณีตศิลป์ รวมทั้งผู้สนใจเรื่อง "ความมหัศจรรย์ของเส้นใย" ทั้ง 12 ชนิด อาทิ ไหม, กัญชง, ใยสับปะรด, และใยบัวหลวง นับจากใยแฟลกซ์ เส้นใยธรรมชาติชนิดแรกที่ใช้ถักทอเครื่องนุ่งห่มเมื่อราว 34,000 ปีก่อน จนถึงการค้นพบผ้าไหมเก่าแก่ที่สุดในโลก อายุกว่า 8,500 ปี ในวัฒนธรรมชนเผ่าไท บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนังสือเล่มนี้ นำเสนอความมหัศจรรย์ของเส้นใยธรรมชาติและการสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่สามารถคิดค้นวิธีการถักทอแบบต่าง ๆ ทั้งมัดหมี่, ยกดอก, ล้วง, ขิด และจก จนเป็นผืนผ้านานาชนิดในลวดลายต่าง ๆ โดยเทรนด์สีในฤดูกาลนี้ นำสีจากธรรมชาติในพืชพรรณพื้นถิ่นมาย้อม สื่ออารมณ์ความรู้สึก เป็นแรงส่งด้านสีสัน ผ่านการผสมผสานวัตถุต่าง ๆ ประกอบด้วย เฉดสีน้ำตาล ที่พบได้เมื่อพินิจ-ชีวิต, เฉดสีน้ำเงิน ที่ชวนให้อิสรชน-ผจญภัย, เฉดสีแดง ที่เชื้อเชิญไปรอนแรม-ลึกลับ และเฉดสีชมพู-เขียวของผู้มีใจอยากกรุยทาง-สร้างฝัน เมื่อผสมผสานการใช้เส้นใย เทคนิคหัตถกรรม และการใช้กลุ่มสีจากผ้าใยกัญชงทอสองลายที่ทนทานกว่าผ้าฝ้ายเดนิมทอปกติ จนถึงการนำเส้นด้ายที่เหลือใช้มาตกแต่ง เป็นการแสดงศักยภาพของหัตถศิลป์และความยั่งยืนสู่การเป็นแฟชั่นแห่งอนาคต

โอกาสนี้ มีพระดำรัสให้นิสิต นักศึกษา และอาจารย์ นำหนังสือฯ เล่มนี้ไปใช้ประโยชน์สำหรับการเรียนการสอน ทรงแนะนำให้คนไทย ร่วมสนับสนุนสินค้าไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและคนในชุมชนให้มีรายได้ รวมทั้ง ทรงฝากชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบ ที่ต้องสวมใส่ให้เหมาะสม ถูกต้องตามวาระและโอกาส

ในการนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ สื่อมวลชน เฝ้าพระราชทานสัมภาษณ์ถึงการทรงงานในฐานะทรงเป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือฯ เล่มที่ 6 รวมทั้ง พระราชทานคำแนะนำสำหรับวงการแฟชั่นและศิลปหัตถกรรมไทยต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของไทย ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาจนสามารถเทียบเท่ากับของต่างประเทศ ซึ่งการช่วยอุดหนุนงานหัตถศิลป์ของไทย นับเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั้งระบบ เช่น ผู้ประกอบการ วงการแฟชั่น และการท่องเที่ยว

ข่าวอื่นในหมวด