วันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้ พลเอก ศิวะ ภระมรทัต กรมวังผู้ใหญ่ ประจำวังศุโขทัย เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ตำบลสำโรง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในภารกิจป้องกันประเทศบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยสำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มีภารกิจส่งการช่วยรบในสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา คือ งานก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทาง เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และเป็นเส้นหลักงานส่งกำลังบำรุง, งานป้อมสนามดำเนินการผลิตติดตั้งก่อสร้างบังเกอร์ เพื่อเป็นที่ดัดแปลงแข็งแรงเพื่อความอยู่รอดในสนามรบของทหาร, งานก่อสร้างระบบประปาสนาม เพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภคและบริโภคให้กับฐานทหารต่าง ๆ ตามแนวชายแดน, งานสนับสนุนการก่อสร้างและขยายเขตไฟฟ้าเพื่อให้มีสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อการเฝ้าตรวจและป้องกันฐานที่มั่นต่าง ๆ รวมทั้ง สนับสนุนการป้องกันสาธารณะภัยจากภัยสงครามและเคลื่อนย้ายอพยพประชาชน รวมถึง ช่วยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์อพยพต่าง ๆ กับกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
ส่วนที่มณฑลทหารบกที่ 25 (ค่ายวีรวัฒน์โยธิน) อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุรินทร์ โปรดให้ นาวาอากาศเอก สุพัฒน์ แก้วภา ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ ระดับ 10 เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลของกองกำลังสุรนารี ซึ่งมีภารกิจป้องกันอธิปไตยของชาติและสถาปนาความมั่นคงตามแนวชายแดน รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ มีความยาวตลอดแนวชายแดนทั้งสิ้น 750 กิโลเมตร มีพื้นที่รับผิดชอบทางด้านกัมพูชา 363 กิโลเมตร โดยประกอบกำลังจากกองพลทหารราบที่ 6 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้ง รับมอบกำลังจากหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ และหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ มีการวางกำลังในพื้นที่รับผิดชอบ เช่น ด้านกัมพูชา แบ่งเป็น 3 พื้นที่ปฏิบัติการ คือ พื้นที่ปฏิบัติการหลัก ตั้งแต่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ถึงอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ, พื้นที่ปฏิบัติการรอง ตั้งแต่อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ถึงรอยต่อกองทัพภาคที่ 1 อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ และพื้นที่เฝ้าระวัง ตั้งแต่อำเภอขุนหาญ ถึงอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
จากนั้น เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ณ โรงพยาบาลสุรินทร์ ประกอบด้วย จ่าสิบเอก ธีระ หมวกเพ็ชร ถูกกระสุนปืนฝังบริเวณหน้าผาก, สิบเอก อรุณ วันทา กระดูกหักแบบแผลเปิดที่มือซ้าย และมีสิ่งแปลกปลอมที่ขาขวา, พลทหาร วิศรุต นุยอนรัมย์ กระดูกจมูกหักและมีสิ่งแปลกปลอมที่แก้มซ้าย, พลทหาร ปรียวัฒน์ จงทิพย์ กระดูก C7 ที่คอหัก และเส้นเลือดที่คอได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง จ่าสิบเอก อภิเดช สมพริ้ง บาดเจ็บจากระเบิด ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะ
ต่อจากนั้น เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ณ โรงพยาบาลปราสาท อำเภอปราสาท ประกอบด้วย สิบเอก เสฐสิทธิ์ ศรีสุพรรณ, จ่าสิบเอก นิกร ชาญมะลิ, สิบโท จิรวัฒน์ ศรีสวัสดิ์, สิบเอก ณัฐวุฒิ ชิดเมืองปัก, พลทหาร นัฐศาสตร์ ขันรัมย์, พลทหาร จิรพัฒน์ โพสาวัง, สิบเอก กฤษฎา จักษุทิพย์, สิบเอก วันชัย จีนโน, พลทหาร ณัฐวัตร ดวงศรี, พลทหาร ธนพล ทองคำ, พลทหาร เทวรรณ์ แพนพัด, อาสาสมัครทหารพราน มงคล ประครองใจ, สิบเอก ดำรงเดช พุทธศรี, สิบเอก จักรพันธ์ กระจ่างใจ, พลทหาร สิทธิภร กลีบเมฆ, พลทหาร สุจินดา จำปาทอง, อาสาสมัครทหารพราน ทอง ดินจันทร์ และสิบเอก บุญโชติ จาดจร
และที่จังหวัดอุบลราชธานี โปรดให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 400 ถุง ณ หอประชุมเกียรติสุรนนท์ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ รวมทั้ง เชิญของเด็กเล่น มอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเชิญไปมอบแก่เด็กในศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ทั้งนี้ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ได้จัดกำลังพลเข้าประจำการบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 257 นาย จากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มีกำลังพลตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับบาดเจ็บสะสม จำนวน 38 นาย
นอกจากนี้ ที่จังหวัดตราด โปรดให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ที่ปรึกษา หน่วยเฉพาะกิจ กองเรือยุทธการ 642 เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่กำลังพล ณ กองพันทหารราบที่ 6 กรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในภารกิจป้องกันประเทศบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
กองพันทหารราบที่ 6 กรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน โดยมีภารกิจในการเข้าประชิดกำลังฝ่ายข้าศึกด้วยปัจจัยการยิง และการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อทำลาย หรือจับข้าศึกเป็นเชลย หรือ ผลักดันการโจมตีด้วยการยิง การรบประชิดและการเข้าตีโต้ตอบ ตามปกติกองพันทหารราบ จะได้รับการเพิ่มเติมกำลัง ด้วยการสนับสนุนการรบ และการสนับสนุนการช่วยรบ เพื่อให้บรรลุตามภารกิจที่กำหนด ดำรงการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องและการปฏิบัติการพิเศษตามที่กรมทหารราบมอบหมาย
จากนั้น เชิญถุงพระราชทานไปมอบให้แก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ณ โรงพยาบาลตราด อำเภอเมืองฯ ประกอบด้วย จ่าเอก ภีมเดช ปูนจีน มีอาการบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย เคลื่อนไหวไม่ได้ ทำการดามแขน, จ่าเอก ภาณุวัฒน์ แสนศักดิ์หาญ ถูกสะเก็ดระเบิดทะลุแขนขวา และจ่าเอก ทัดภูมิ เรือนมูล ถูกแรงระเบิด แน่นหน้าอกซ้าย โดยกำลังพลทุกนาย ต่างซาบซึ้งและสำนึกในพระกรุณาธิคุณหาอย่างที่สุดมิได้
