เช้านี้ที่หมอชิต - มาดูความเคลื่อนไหวของทางการไทย หลังเกิดเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนว่ากัมพูชาไม่จริงใจแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศจะใช้ช่องทางยื่นกับสหประชาชาติเนื่องจากชัดเจนว่ากัมพูชาทำผิดอนุสัญญาออตตาวา
ด้าน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสายตรงถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวาไต่สวนการกระทำของกัมพูชา ซึ่งฝ่ายเลขาธิการของอนุสัญญาออตตาวา ได้มีหนังสือตอบกลับมาด้วยแล้ว พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว
จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 จะนำคณะผู้แทนทางการทูต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง
ด้าน ศบ.ทก. แถลงว่า ล่าสุดได้ประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือในการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ RMAC ซึ่งกัมพูชาเป็นประธาน แสดงความจริงใจในการสนับสนุนภารกิจเก็บกู้ตามแนวชายแดน เนื่องจากยังพบทหารกัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดเป็นจำนวนมาก
ขณะที่เพจ Facebook กองทัพบก ทันกระแส ได้โพสต์ข้อมูลน่าสนใจว่ากัมพูชาได้รับเงินสนับสนุนจากนานาชาติในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดถึงปีละ 31.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 พันล้านบาท แต่ทำไมยังคงใช้ทุ่นระเบิดอยู่
