ขยายผลแก๊งค้ายา รวบ 2 ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนปทุมธานี แตกแถวพัวพันค้ายาเสพติด

ขยายผลแก๊งค้ายา รวบ 2 ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนปทุมธานี แตกแถวพัวพันค้ายาเสพติด

View icon 2.4K
วันที่ 15 ส.ค. 2568 | 17.02 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.2 และ บก.ขส. บช.ปส. ร่วมกันจับกุมเครือข่าย นายธีรยุทธ หรือ เบียร์ ประกอบด้วย นายกตกร และ น.ส.สุพัตรา (กลุ่มพักยาเสพติด) หลังซุกซ่อนยาบ้า 3 ล้านเม็ด ภายในรถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว ทะเบียน ขจ 6798 อุดรธานี ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยลักลอบลำเลียงเยาเสพติดมากจาก อ.ปากชม จ.เลย พร้อมยึดรถยนต์ไว้ตรวจสอบ 2 คัน

ต่อมาได้ทำการสืบสวนขยายผลและรวบรวม พยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 หมายจับ คือ 1.นายธีรยุทธ หรือ เบียร์ ผู้สั่งการ (ผู้ต้องหาตามหมายจับ) หลบหนี 2.นายวงศกร ผู้จัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทย (ผู้ต้องหาตามหมายจับ) หลบหนี 3.นายปัญญา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 110/2568 ลง 10 ก.พ. (จับกุมตัว) 4.น.ส.อัญมณี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 111/2568 ลง 10 ก.พ.68 (จับกุมตัว) ปละ 5.นายภัทรพงศ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 112/2568 ลง 10 ก.พ.68 (จับกุมตัว)

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนยังพบว่ากลุ่มที่ทำหน้าที่ทางด้านการเงินของเครือข่ายดังกล่าวประกอบไปด้วยผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน โดยสามารถออกหมายจับและจับกุมตัวได้แล้ว 2 คน คือ นายกฤษดา ทรัพย์หมอน และ นายสุรศักดิ์ พัฒนชนชาติคีรี นอกจากนี้ยังพบว่ามีตำรวจนอกแถวเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ในการรับเงินยาเสพติด และถอนเงินยาเสพติดจากบัญชี นายกฤษดา ต่อมา ชุดสืบสวนตำรวจ บก.ปส.2 ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลผลจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้อง 2 ราย ในข้อหา "ร่วมกันฟอกเงินโดยโอน หรือ รับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อนขณะหรือหลังการกระทำความผิดมูลฐาน”

ล่าสุดวันนี้ (15 ส.ค. 68) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. ได้ประสานงานกับ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ตำแหน่ง รอง สว.(สส.) กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ยศร้อยตำรวจโท (ร.ต.ท.) และอีกนายตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ยศสิบตำรวจเอก (ส.ต.อ) นอกจากนี้ ยังมีบุคคลที่ทำหน้าที่รับเงิน ถอนเงิน และโอนเงิน ค่ายาเสพติดของเครือข่ายนี้อีกหลายราย

ทั้งนี้ สามารถยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ครั้งที่ 1 มูลค่า 11,420,000 บาท, ยึดทรัพย์ครั้งที่ 2 มูลค่า 23,789,000 บาท รวมมูลค่า 35,209,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง