Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2568
1.กัมพูชาฟ้องสหประชาชาติ ไทยวางลวดหนาม โดยมิชอบ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ส่งหนังสือถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เพื่อแสดงความกังวลอย่างเร่งด่วนต่อกรณีที่อ้างว่า กองทัพไทยวางลวดหนาม "โดยมิชอบด้วยกฎหมาย" รวมทั้งมีทหารไทยติดอาวุธเข้าไปในดินแดนของกัมพูชาหลายครั้ง แต่ได้ระงับการกระทำดังกล่าวเมื่อมีกองทัพกัมพูชา, ประชาชน และผู้ช่วยทูตทหารจากนานาชาติเข้าไปสังเกตการณ์ โดยในเอกสารกัมพูชาได้แนบภาพประกอบ หญิงชาวกัมพูชา 2 คน ยืนร้องไห้ ยกมือไหว้พร้อมน้ำตาเข้าไปด้วย
นอกจากนี้ กัมพูชายังขอให้ OHCHR สนับสนุนข้อเรียกร้องของกัมพูชาที่ต้องการให้ฝ่ายไทยรื้อถอนลวดหนาม ยางรถยนต์ และสิ่งกีดขวางที่รุกล้ำดินแดนกัมพูชาออกในทันที, คืนทรัพย์สินและที่ดินทำกินของชาวกัมพูชาทั้งหมดที่ฝ่ายไทยยึดไป, ให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมวิสามัญ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2568 และข้อตกลง 13 ข้อ ในประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2568 และสนับสนุนการสืบสวนโดยเป็นอิสระ และเป็นกลางเพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ฝ่ายกัมพูชา ออกแถลงการณ์ประท้วง โดยประณามว่ากองทัพไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมอ้างถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ รวมถึงการติดตั้งลวดหนาม ตาข่าย สิ่งกีดขวาง และยางรถยนต์ตามแนวชายแดนหมู่บ้านในอำเภอโอ-จเริว (Ou Chrov) จังหวัดบันทายมีชัย (Banteay Meanchey) ซึ่งมีพื้นที่ตรงข้ามกับอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
2.น้ำท่วมฉับพลัน ตาย-สูญหายหลายร้อยคน ที่อินเดีย
เกิดฝนตกหนักและทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันตามมา ในพื้นที่เมืองจาโซติ (Chasoti) ซึ่งเป็นจุดแวะพักของเส้นทางแสวงบุญยอดนิยมในเทือกเขาหิมาลัย บริเวณรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ทางตอนเหนือของอินเดีย เมื่อวานนี้ (14 ส.ค. 68) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน สูญหายอีกกว่า 100 คน
ทางเจ้าหน้าที่ เผยว่า กระแสน้ำได้พัดพาผู้แสวงบุญจำนวนมากที่รวมตัวกันรับประทารอาหารเที่ยงอยู่ที่ห้องครัวชุมชน และบริเวณจุดตรวจความปลอดภัยของหมู่บ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมทั้งทหารและตำรวจเร่งช่วยกันเข้าค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย เผยว่า ปรากฎการณ์ "เมฆระเบิด" (Cloudburst) คือการที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นปริมาณกว่า 100 มิลลิเมตร ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความหายนะ โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาในช่วงฤดูมรสุม
3.เด็กนักเรียนอาหารเป็นพิษกว่า 360 คน ที่อินโดนีเซีย
เกิดกรณีอาหารเป็นพิษครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนฟรีของประธานาธิบดีปราโบโว ซูบียันโต เมื่อต้นปีนี้ โดยมีผู้ป่วยแล้วอย่างน้อย 365 คน เกือบทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียน ในเมืองสราเกน (Sragen) จังหวัดชวากลาง หลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันที่โรงเรียน จากนั้นเกิดอาการปวดศีรษะ, ปวดท้องอย่างรุนแรง และท้องเสีย สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ เพราะอาหารกลางวันที่แจกจ่ายไปยังโรงเรียนหลายแห่ง ได้แก่ ข้าวหมกขมิ้น, ไข่เจียวหั่นเส้น, เต้าหู้แข็งทอด, สลัดผัก, แอปเปิลหั่น และนมกล่อง อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือเน่าเสีย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เคยมีนักเรียนล้มป่วยอาหารเป็นพิษกว่า 200 คน ที่จังหวัดชวาตะวันตก ผลการตรวจพบว่าสาเหตุมาจากอาหารกลางวัน ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาและอีโคไล
ทั้งนี้ สำนักงานโภชนาการแห่งชาติของรัฐบาล ซึ่งดูแลโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนฟรีของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้ยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในครัวและการจัดส่งอาหาร จนมีผู้ได้รับอาหารฟรีแล้วกว่า 15 ล้านคน โดยตั้งเป้าจะขยายให้ครอบคลุมถึง 83 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ โดยตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ที่ 171 ล้านล้านรูเปียห์ หรือกว่า 350,000 ล้านบาท
4.ญี่ปุ่นรำลึก 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ เสด็จเป็นประธานพิธีรำลึกครบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สนามกีฬาบูโดกัน ใจกลางกรุงโตเกียว โดยมีนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เข้าร่วมพิธีด้วย
สมเด็จพระจักรพรรดิตรัสว่า พระองค์หวังว่าผู้คนจะยังคงถ่ายทอดเล่าเรื่องราวแห่งความความยากลำบากทั้งในช่วงสงครามและหลังสงครามให้คนรุ่นหลังรับรู้ต่อไป ขณะที่นายรัฐมนตรีอิชิบะย้ำว่า จะต้องไม่เกิดความผิดพลาดอันเลวร้ายซ้ำรอยอีก และธำรงไว้ซึ่งแนวทางสันติภาพตลอดไป
ขณะเดียวกัน นางซานาเอะ ทากาอิจิ สส.พรรคแอลดีพี ซึ่งได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปและนายชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เดินทางไปเคารพวิญญาณทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตที่ศาลเจ้ายาสุกุนิที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลก
ขณะที่ สมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายขวา แต่งชุดทหารเดินถือธงชาติไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ และมีชาวญี่ปุ่นหลายพันคนไปแสดงความไว้อาลัยและรำลึกถึงดวงวิญญาณทหารญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยมีการปล่อยนกพิราบและยืนไว้อาลัยในเวลา 12 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงมีพระราชดำรัสประกาศการยอมจำนนของกองทัพญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2488