กองทัพภาคที่ 2 ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ-เยียวยา บ้านที่ถูกพลทหารยิงพังเสียหาย ด้านผู้ใหญ่บ้าน ย้ำพูดตามข้อเท็จจริง หนึ่งในผู้บาดเจ็บมีบัตรประชาชนเป็นคนไทย แต่ไม่ใช่ลูกบ้าน ขณะที่เจ้าของบ้าน ยืนยัน วันเกิดเหตุผู้บาดเจ็บไม่เด้มีปัญหากับทหาร และไม่มีทหารมาเตือน เอากล้องวงจรปิดเช็กเสียงก็ไม่พบ
16 ส.ค. 68 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านเขื่อนแก้ว ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจสอบความเสียหายและเยียวยาบ้านหลังดังกล่าว หลังจากพลทหารรัฐภูมิ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 วัยรุ่นบาดเจ็บ เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 15 ส.ค. 68 ก่อนจะหลบหนี และเวลา 10.35 น. วันเดียวกัน ก็พบว่าได้ยิงตัวเองเสียชีวิต ที่บริเวณป่าริมคลองส่งน้ำ ห่างจากบ้านที่ก่อเหตุยิงวัยรุ่นประมาณ 120 เมตร
โดยพบรอยกระสุนสร้างความเสียหาย ประกอบด้วย ประตูเหล็กเลื่อนที่เป็นรอยพรุน กำแพงบ้าน เสาบ้าน ตู้เสื้อผ้า ตู้กระจกและตู้เย็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารจะได้นำข้อมูลดังกล่าว ไปรายงานกองทัพ เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือเยียวประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
ด้านนางผัดแก้ว แก้วมณี ผู้ใหญ่บ้านเขื่อนแก้ว ต.กาบเชิงฯ เปิดเผยถึงกรณีที่ในโซเชียลระบุว่า 1 ในวัยรุ่น 2 คนที่ถูกยิง เป็นบุคคล 2 สัญชาติ ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ทราบว่าน้องคนเจ็บ 1 คน มีบัตรประชาชนเป็นชาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และน้องก็ไม่ใช่คนในพื้นที่บ้านเขื่อนแก้วด้วย เมื่อก่อนน้องเคยมาพักอาศัยกับอดีตแฟนสาว ซึ่งตอนนี้เลิกรากันไปแล้ว ให้เข้าใจน้องเขาด้วยว่าเขาเป็นคนไทย ชาว อ.สังขะ ส่วนอีกคนก็เป็นคน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และก็ไม่ได้เป็นลูกบ้านของตน
น้องเขามาเช่าบ้านทำร้านถ่ายรูปที่ บ้านน้อยร่มเย็น ต.กาบเชิง ซึ่งตนถูกทัวร์ลงหนัก อ้างว่าเข้าข้างคนเจ็บ ทั้งที่จริง ๆ แล้วตนก็พูดไปตามข้อเท็จจริง ในฐานนะที่เป็นเจ้าบ้านก็ลงพื้นที่มาในที่เกิดเหตุ ไม่ได้เข้าข้างน้อง แค่พูดตามข้อเท็จจริง ฝากเห็นใจตนด้วย ทำงานหนักทั้งสถานการณ์ชายแดนที่ต้องดูแลหมู่บ้าน ทัวร์มาลงเรื่องนี้อีก ไม่มีกำลังใจจะทำงานแล้ว ก็ขอให้เห็นใจด้วย พูดหรือให้สัมภาษณ์อะไรที่ผิดพลาดไปก็ต้องขอภัยด้วย
ขณะที่ นางวิไลพร ประภาสพงษ์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งมาเช่าอาศัยบ้านหลังดังกล่าว กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตามเสียงในกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้ยินเสียงที่มีการระบุว่า ทหารกับวัยรุ่นพูดจามีปัญหากัน ตำรวจสืบสวนก็นำคลิปวงจรปิดไปตรวจสอบแล้ว ก็ไม่มีเสียงทะเลาะกัน มีการดื่มกินปกติ ไม่มีทะเลาะกัน ไม่พบว่ามีทหารมาเตือนในคืนดังกล่าว ตนขอยืนยัน ตนก็ งงๆ กับข่าวที่ออกไปคนละทาง คนที่ยืนยันได้ก็คือเจ้าของบ้านที่ติดกล้องวงจรปิด ที่ให้ข้อมูลตรงกันกับตนที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
ส่วนเรื่องการเปิดเครื่องเสียง ตนก็เข้าใจในสถานการณ์ จึงให้น้อง ๆ ปิดไม่เกิน 2 ทุ่ม ซึ่งฝนก็ตกด้วยในคืนนั้น ฝากประชาชนช่วยเสพข่าวอย่างมีสติ เพราะคนที่เสียหายก็เสียความรู้สึก ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ตนก็รักชาติ รักทหารที่เป็นรั้วของชาติเหมือนกัน ที่เขาเสียสละเพื่อพวกเรา เราก็ต้องเข้าใจและเห็นใจพวกเขามาก ๆ ส่วนน้องที่ถูกยิง ก่อนหน้านี้จะเคยมีปัญหากับทหารคนดังกล่าวหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุไม่มีใครมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ทหารหรือพบทหารมาเตือนที่บ้านอย่างแน่นอน