เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน (17 ส.ค.) ยังคงมีการตอบโต้กันไปมาระหว่างทางการไทย กับ กัมพูชา หลังจากที่ นายเฮง รัตนา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดกัมพูชา หรือ CMAC อ้างว่า "ทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ฝ่ายไทยนำมาแสดง และกล่าวอ้างว่ากัมพูชาลอบวางนั้น ยังไม่ถูกดึงสลักนิรภัย ซึ่งทางเทคนิคระเบิดที่นำไปวางต้องดึงสลักนิรภัยออกก่อน มิฉะนั้นระเบิดจะไม่ทำงาน"
โดย พลโท วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ให้ข้อมูลว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลบางส่วนเพื่อสร้างความสับสน โดยย้ำว่าทุ่นดังกล่าวตรวจพบเมื่อ 4 สิงหาคม ที่ ภูมะเขือ ซึ่งมีทั้งทุ่นที่ยังไม่ได้ติดตั้ง และทุ่นที่ถูกติดตั้งแล้ว
โดยทั้ง 2 ลักษณะถูกนำมาแสดงต่อผู้แทนต่างประเทศครบถ้วนเมื่อ 16 สิงหาคม มิใช่ตามที่กัมพูชาเลือกนำเสนอเพียงบางภาพเพื่อบิดเบือนความจริง เพื่อหวังให้เกิดความสับสน และมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับพยานหลักฐานของฝ่ายไทย แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นผล เพราะผู้แทนจากต่างประเทศได้เห็นและสัมผัสกับของจริงทั้งหมดอย่างละเอียดและครบถ้วนแล้ว
ด้าน พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยันว่า ผลการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันว่า กำลังพลไทย 5 นาย ที่ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในชายแดน เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และเป็นทุ่นระเบิดใหม่ทั้งหมด
โดยถูกวางในลักษณะพร้อมใช้งาน มีการถอดอุปกรณ์ Safety และกลบพรางอย่างแนบเนียน สภาพทุ่นมีความใหม่ ตัวอักษรคมชัด และเมื่อรื้อถอนพบว่าสปริงเข็มแทงชนวนและชิ้นส่วนภายในอยู่ในสภาพใหม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
นอกจากนี้ บริเวณภูมะเขือยังตรวจพบทุ่นระเบิด 2 ลักษณะ ลักษณะแรก คือ ทุ่น PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หางปลา (safety pin) ยังคงติดอยู่ครบถ้วน สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีทุ่นชนิดนี้ไว้ครอบครองเพื่อเตรียมใช้งาน และมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าทุ่นเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายพื้นที่
ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเป็นทุ่นที่รื้อถอนขึ้นจากพื้นดินในสภาพที่ถูกวางใช้งานแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน บางลูกมีร่องรอยของเข็มแทงชนวนที่เริ่มทำงานแต่ยังไม่สมบูรณ์
โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยันว่า ไทยไม่มีทุ่นระเบิดชนิดนี้ในการครอบครอง แตกต่างจากกัมพูชาที่ครอบครองทุ่นระเบิดชนิดนี้ และชนิดอื่น ๆ รวมกว่า 3,700 ลูก