ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ยังคงปูพรมค้นหาพ่อแม่ใจยักษ์ ที่นำทารกแรกเกิด น้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัม ไปเผาทิ้งในเตาเผาถ่านของชาวบ้านกลางไร่อ้อย
หลังจากเมื่อวานนี้ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเตาเผาถ่าน กลางไร่อ้อย บ้านหินฮาว หมู่ 4 ตำบลโนนฆ้อง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่า มีคนพบศพทารก ยังมีสายรกติดอยู่ ถูกไฟไหม้ตามร่างกายเกือบทั้งหมด อยู่ในเตาเผาถ่าน
สภาพทารก ไหม้เกือบหมดเหลือเพียงท่อนแขน และบางส่วนของร่างกาย ไม่ทราบเพศ เบื้องต้นคาดว่า คนที่นำทารกมาเผาอำพราง เป็นพ่อและแม่ของเด็กเอง แต่เชื้อไฟหมดก่อน มั่นใจว่าเป็นคนในพื้นที่ เพราะจุดที่เผาทารกต้องเดินเท้าผ่านป่าอ้อยค่อนข้างไกล
พื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร ก่อนจะถึงเตาเผาถ่าน มีกระท่อมสำหรับนอนพัก ใกล้กันเป็นสระน้ำ ทั้ง 2 บอกว่า 20.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม พากันมาที่ไร่อ้อย เพื่อดักกุ้งในสระน้ำ เห็นในเตาเผาถ่าน มีคนนำอะไรมาเผาไว้ จึงตักน้ำสาด เพราะกลัวว่าไฟจะลามไหม้พอไฟดับใช้ไม้เขี่ยถึงกับผงะ เห็นร่างทารก ตกใจมากจึงพากันกลับ รุ่งเช้าแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ คาดแม่เด็กทำแท้ง แล้วนำลูกมาเผาทิ้ง ส่วนทารกมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม เชื่อว่าต้องเป็นคนรู้จักพื้นที่ ถึงได้นำทารกไปเผาทิ้งถูกจุด
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวพ่อแม่ใจยักษ์ วันนี้พนักงานสอบสวนจะเชิญผู้นำชุมชนมาให้ข้อมูลว่า ในพื้นที่มีหญิงตั้งครรภ์หรือไม่ หรือมีบุคคลน่าสงสัยเข้ามาในพื้นที่หรือเปล่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ ได้เชิญเจ้าของไร่อ้อยและภรรยา รวมถึงเพื่อนอีก 2 คน ที่พบศพเป็นกลุ่มแรกมาให้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
โดยทั้ง 4 คนให้เบาะแสว่า เพื่อนบ้านที่ปลูกกระท่อมพักอาศัยอยู่ที่ไร่อ้อยใกล้กัน เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.00-18.00 น. ก่อนเกิดเหตุเห็นคนเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ แต่ด้วยระยะทางที่ไกล จึงไม่แน่ใจว่า 1 หรือ 2 คน จากนั้นก็มีควันลอยขึ้นมา ยังคิดว่าเจ้าของไร่อ้อยเผาถ่าน เลยไม่ได้สนใจ
ผู้กำกับการ สภ.บ้านฝาง บอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลตามโรงพยาบาลในพื้นที่ อำเภอบ้านฝาง เพื่อหาประวัติผู้มาฝากครรภ์และใกล้กำหนดคลอด รวมถึงมีผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา อาการตกเลือด และส่งชุดสืบสวนไปไล่กล้องวงจรปิดตามหมู่บ้าน รอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีประมาณ 4 หมู่บ้าน เพื่อหาบุคคลต้องสัยที่คาดว่า น่าจะขี่รถจักรยานยนต์นำทารกไปเผาอำพราง จนถึงตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า ทารกดังกล่าวเสียชีวิตก่อนหรือหลังถูกเผา คาดว่าน่าจะได้เบาะแสเร็ว ๆ นี้
