พบเด็กทารกแรกเกิด 1 วัน ถูกแม่ใจร้ายเอาใส่ถุงกระดาษมาทิ้งไว้ริมรั้วบ้านชาวบ้าน

พบเด็กทารกแรกเกิด 1 วัน ถูกแม่ใจร้ายเอาใส่ถุงกระดาษมาทิ้งไว้ริมรั้วบ้านชาวบ้าน

View icon 2.0K
วันที่ 23 ก.ย. 2568 | 10.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (23 ก.ย. 68) เมื่อเวลา 07.40 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบทารกแรกเกิดถูกทิ้งไว้บริเวณริมรั้วบ้าน ภายในซอย 12 ซึ่งเป็นซอยตัน ถ.เจริญประดิษฐ์ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี รุดเข้าตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุพบเป็นทารกเพศหญิง อายุประมาณ 1 วัน ถูกนำใส่ถุงกระดาษและห่อด้วยผ้าโสร่งเก่า ๆ วางอยู่บนพื้นดินริมรั้วบ้านหลังหนึ่ง เด็กยังคงมีสายสะดือหลงเหลืออยู่ สภาพร่างกายอ่อนแรง โชคดีที่มีพลเมืองดีออกมาทิ้งขยะในช่วงเช้า และบังเอิญพบเข้าก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน จึงรีบอุ้มเด็กเข้าบ้าน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ โดยหน่วยกู้ชีพได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำทารกส่งโรงพยาบาลปัตตานี แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดและยืนยันว่าเด็กปลอดภัย ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ รวมถึงเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในซอยและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะหอพักนักศึกษาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้หากไม่พบว่าใครเป็นผู้ปกครองเด็ก พลเมืองดีที่พบเห็นจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพื่อรับเด็กมาเลี้ยงดู

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจแก่ชาวบ้านในละแวกนั้น ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมของผู้เป็นแม่ ที่ทอดทิ้งลูกน้อยโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือมีข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่ สภ.เมืองปัตตานี เพื่อช่วยติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม

ด้าน นายประทีป เอื้อนมงคล ผู้พบเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังนำขยะออกไปทิ้งตามปกติทุกเช้า ได้สังเกตเห็นถุงกระดาษวางอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้าน ตอนแรกก็แปลกใจและสงสัยว่าคืออะไร จึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ปรากฏว่าภายในถุงมีทารกแรกเกิดนอนอยู่ เด็กไม่ได้ส่งเสียงร้อง แต่มีการขยับตัว ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จากนั้นจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง