ฝนตกต่อเนื่อง ชายแดนอีสานใต้

View icon 107
วันที่ 18 ส.ค. 2568 | 16.25 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อีสานใต้ เจอฝนตกติดต่อมาหลายวัน ทำให้ตามแนวชายแดนฝั่งไทยอากาศชุ่มชื้น สบาย ๆ แต่ฝั่งกัมพูชากลับน้ำท่วม เนื่องจากเป็นเขตแดนที่ต่ำกว่าไทย

ทหารฝั่งกัมพูชาต้องอยู่อย่างยากลำบาก ลงแรงช่วยกันวิดน้ำ ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน เพื่อระบายน้ำออกจากบังเกอร์ในยามค่ำคืน หลังฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง

กรมอุตุนิยมวิทยา อธิบายว่า ช่วงนี้จะมีฝนต่อเนื่อง จากปัจจัยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้พื้นที่ฝั่งกัมพูชาบริเวณอีสานใต้ที่อยู่ต่ำกว่าพื้นที่ของไทย เกิดน้ำไหลจากที่สูง ลงสู่ที่ต่ำ เข้าไปท่วมในบังเกอร์ทหารกัมพูชา

ตัดกลับมาที่ไทย อากาศเย็นสบาย พี่ ๆ ทหารได้ผ่อนคลายกับสายฝน หิ้วถุงสัมภาระ นั่งลงกับดินที่ชุ่มน้ำ แล้วปล่อยตัวให้ไหลลงมา ออกแนวเล่นสไลด์เดอร์ มีชาวเน็ตไปแซว บอกว่าเล่นกันเสร็จแล้ว เตรียมกลับไปโดนไม้มะยมจากแม่ทัพได้เลย

และจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ทหารกัมพูชาล้มป่วย โดยเพจฯ "Army Military Force" ได้โพสต์คลิปขณะที่ทหารกัมพูชาเกิดป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนให้วิตามินผ่านสายน้ำเกลือ เข้าทางเส้นเลือด ดูแลกันเองตามอัตภาพ

คลิปดังกล่าว ทหารกัมพูชาเป็นผู้เผยแพร่ลงโซเชียลฯ สะท้อนความเป็นอยู่ของทหารแนวหน้า ฝากบอกว่า "สวัสดีพ่อแม่พี่น้องครับ ทหารอยู่ข้างหน้าแล้วนะครับ แต่เขาไม่สบาย กำลังจะตาย ไม่มีเงิน ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องช่วยเขาครับ"

ยังมีคลิปของทหารกัมพูชาที่สวมใส่หน้ากากกันก๊าซพิษ เดินลาดตระเวนอยู่ในป่า พร้อมระบุว่า "ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วระหว่างก๊าซพิษหรือหมอก เพราะกองทัพบอกว่าไทยจะใช้ก๊าสพิษโจมตีกัมพูชา แต่แปลกตรงที่หลายวันมานี้ไม่มีสัตว์ป่าตายเลยแม้แต่ตัวเดียว มีเพียงกลิ่นเน่าเหม็นแปลก ๆ ที่พัดโชยมากับสายลมเป็นระยะ จากฝั่งพนมดงรักษ์ ซึ่งผู้บังคับบัญชาบอกว่ากลิ่นเหล่านั้นมาจากซากช้างของไทย ซึ่งหลายคนไม่แน่ใจเช่นกัน แต่เพื่อความปลอดภัยพวกเราจะประจำการอยู่ที่นี่ เพื่อรักษาดินแดน และปกป้องพี่น้องชาวกัมพูชาอย่างสุดชีวิต"

ทหารไทย คนไทย ฟังแล้วอึ้ง ! ต้องตอบคำถามข้อแรกก่อน คือ ไทยไม่ได้ใช้อาวุธทางเคมีแน่นอน ที่เห็นขมุกขมัวนั่นคือหมอก หรือไอน้ำที่เกิดขึ้นหลังฝนตก เนื่องจากอากาศชื้น

ส่วนเรื่องกลิ่นเหม็นจากช้างตาย หรือ ทหารไทยตาย ขอตอบว่า ไม่ใช่ความจริง ! กลิ่นที่ได้ อาจจะเป็นศพของทหารกัมพูชา ที่ยังไม่มาเก็บร่างกันหรือเปล่า

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Army Military Force