สื่อกัมพูชา เผย สถานการณ์ขัดแย้งชายแดน กระทบเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวของกัมพูชา

สื่อกัมพูชา เผย สถานการณ์ขัดแย้งชายแดน กระทบเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวของกัมพูชา

View icon 541
วันที่ 18 ส.ค. 2568 | 17.21 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สื่อกัมพูชา รายงาน ตั้งแต่สถานการณ์ขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของกัมพูชา เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 ของกัมพูชา ลดลง

วันนี้ (18 ส.ค. 68) “ขแมร์ไทม์ส” (Khmer Times) รายงานว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา จนนำมาสู่การปิดด่านชายแดน และมีการปะทะทางการทหารนั้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชาไม่น้อย แม้การนำเข้า ผัก-ผลไม้, ปุ๋ยและพลังงาน จากไทยจะมีปริมาณลดลงมาก แต่ยังสามารถหาแหล่งทดแทนอื่นได้

ซึ่งต่างจากการส่งออก ที่กัมพูชาอาจทำไม่ได้ตามเป้า โดยเฉพาะการส่งออก “มันสำปะหลังดิบ” ไปยังประเทศไทย ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าถึง 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 4,300 ล้านบาท แต่หากความขัดแย้งกับไทยยังคงดำเนินต่อไป และการขนส่งทางบกยังคงมีข้อจำกัด ตัวเลขการส่งออกเหล่านี้อาจลดลงอย่างรวดเร็ว

ส่วนภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกับไทยมากที่สุด คือ ภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย เป็นตลาดอันดับ 1 ของกัมพูชาในปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเยือนกัมพูชามากถึง 2.15 ล้านคน คิดเป็น 32% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด

แต่หลังจากเกิดเหตุปะทะชายแดน ไทย-กัมพูชา รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ซื้อบัตรเข้าชมโบราณสถานใกล้ชายแดนบางแห่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ลดลงถึง 92.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นก็ลดลง เพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัยจากสถานการณ์การสู้รบ ด้านแรงงานภาคการท่องเที่ยวกัมพูชากว่า 500,000 คน จึงมีแนวโน้มที่จะมีรายได้ลดลง และแน่นอนว่าความขัดแย้งครั้งนี้ ย่อมกระทบเศรษฐกิจไทยด้วยไม่มากก็น้อยเช่นกัน

ทั้งนี้ ไทย-กัมพูชา ต้องยึดมั่นในหลักการทูตอย่างสร้างสรรค์ เพื่อฟื้นฟูสันติภาพ และกลับมาเปิดการค้าขายอีกครั้ง เพราะความขัดแย้งไม่ได้เอื้อประโยชน์แก่ฝ่ายใด แต่กลับก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและความทุกข์ทรมานของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง