ห้องข่าวภาคเที่ยง - ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จากที่ "หลวงพ่ออลงกต" ตัดสินใจไม่ลาออก กลายเป็นขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจแบบนี้ ไปฟังจากปากของหลวงพ่อกัน
เรื่องการเปิดทางให้ทุกภาคส่วนเข้ามาตรวจสอบ เพื่อเคลียร์ความบริสุทธิ์อันนี้เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ "หลวงพ่ออลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ บอกกับผู้สื่อข่าว
แต่ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับว่ามีอีกประเด็น ที่บอกกับสื่อด้วย นั่นคือความลำบากใจของ "หลวงพ่อ" ที่ต้องตอบคำถามเดิม ๆ กับสื่อ อันนี้ยังไม่เท่าไร แต่ที่ลำบากใจหนัก คือการที่มีสื่อเอาคำพูดไปบิดเบือนจนผิดไปจากข้อเท็จจริง
มีประเด็นหนึ่ง ที่พูดถึงการไม่ให้ยาต้านไวรัสกับผู้ป่วย HIV ที่พักรักษาตัวในวัดพระบาทน้ำพุ เรื่องนี้จริง ๆ แล้วมีที่มาจาก นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ กรรมการและที่ปรึกษาสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย บอกว่า เป็นข้อมูลจากอาสาสมัครพยาบาลชาวต่างชาติ ที่ไปช่วยดูแลผู้ป่วย HIV ที่วัดพระบาทน้ำพุกับเพื่อนประมาณ 6-7 คน อ้างว่ามีการสั่งห้ามให้ยาต้านไวรัส และขับไล่พวกเธอออกมา ซึ่งเธอก็กลัวมากว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงไม่กล้าไปร้องกับหน่วยงานของรัฐ
ซึ่งประเด็นนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องที่วันนี้ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พากันเข้าไปดูปัญหาทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV ปัญหาการจัดเก็บยา และเวชภัณฑ์ อนามัยความสะอาด รวมถึงการเพาะปลูกกัญชาที่ใช้ในทางการแพทย์ ว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบด้านสาธารณสุขไว้หรือไม่
อีกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของวัดพระบาทน้ำพุ เป็นเรื่องที่มีอดีตผู้สื่อข่าวไปร้องขอให้ DSI ตรวจสอบข้อเท็จจริงซ้ำอีกทีว่า ทำไมคดีที่เขาสงสัยว่า คนร้ายที่ยิงถล่มบ้าน หลังการนำเสนอข่าวเรื่องการถือครองที่ดินผิดปกติในจังหวัดลพบุรี ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับ "วัดพระบาทน้ำพุ" ถึงไม่คืบหน้า และเงียบหายไป โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับใครอื่น และก่อนจะเกิดเรื่องมีตำรวจที่สนิทกัน โทร.มาเตือนให้ระวัง ว่ามีคนมาขอให้ตำรวจนายหนึ่งช่วยตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเขา ก่อนที่อีก 10 วันต่อมา จะเกิดเรื่องขึ้น
ซึ่งในประเด็นเรื่องโซเชียลฯ แฉเกี่ยวกับตัวจริงของคนที่เป็นเจ้าของที่ดิน เราเคยนำเสนอข่าวนี้ไป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนั้น โฆษก DSI ชี้แจงว่า ได้มีการตรวจสอบแล้ว พบว่าเข้าข่ายเป็นคดีฉ้อโกง จึงส่งเรื่องกลับไปให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี และส่วนราชการจังหวัด ดำเนินการต่อ
ขณะที่ทีมข่าวได้ข้อมูลจาก นายตำรวจที่เคยรับผิดชอบดูแลพื้นที่นี้ บอกว่า จากการสืบสวนสอบสวน พบว่ามือปืนที่ยิงเป็นมืออาชีพ และคดีนี้ก็ยังไม่ถูกทิ้ง ไม่ปฏิเสธว่าการเปิดโปงกรณีของวัด ก็มีโอกาสเป็นหนึ่งในแรงจูงใจ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่ยังตัดทิ้งไม่ได้ โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวที่อาจไปกระทบกระทั่งกับแหล่งข่าวคนอื่นจนเกิดผิดใจกัน
