เช้านี้ที่หมอชิต - คดีเกี่ยวกับพระ ยังคงมีการบ้านให้ตำรวจสอบสวนกลางทำอยู่เรื่อย ๆ อย่างล่าสุดเป็นเหตุการณ์ย้อนกลับไปช่วงปี 2557 เกี่ยวข้องกับ "อดีตเจ้าอาวาส" วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่พบว่าสึกแล้ว แต่ยังมีอำนาจใช้เงินวัด
คนที่นำข้อมูลนี้มาแจ้งกับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ "บิ๊กเต่า" ใช้ชื่อว่า "สีกาบี" เธอบอกว่า "อดีตเจ้าอาวาส" คนนี้ ถูกมหาเถรสมาคมให้ปาราชิก เพราะเกี่ยวข้องกับสีกา ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ยังคงอยู่ในวัด ยังบริหารจัดการ และนำเงินของวัดไปใช้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า "อดีตเจ้าอาวาส" อาศัยอยู่ในวัดครั้งสุดท้าย วันที่ 10 กันยายน แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่วัดแห่งนี้แล้ว ตอนนี้กำลังตรวจสอบประเด็นต่าง ๆ ทั้งเรื่องการใช้เงินวัด เรื่องผู้มีอิทธิพลสั่งการ และเรื่องที่มีเลขบัตรประชาชน 2 ใบ ลักษณะเหมือน "อดีตพระอลงกต" ว่าจริงหรือไม่อย่างไร
เรื่องต่อมาอัปเดต คดี "วัดนาป่าพง" จังหวัดปทุมธานี หลังทีมทนายของวัด นำหลักฐานมาชี้แจงประเด็นที่มาของเงินกว่า 500 ล้านบาท ช่วงปี 2556-2559 ที่มีการฟ้องร้องกันกับ "สีกาพลอย" ที่อยู่ประเทศเยอรมนี ยืนยันว่า การทำคดีมุ่งเน้นไปที่การยักยอกเงินวัดจากบัญชีหลัก ไปทำอะไรมาบ้าง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ หลังได้รับเอกสารจากธนาคารมาแล้ว จะชัดเจนขึ้น
ส่วนคดี "วัดพระบาทน้ำพุ" จังหวัดลพบุรี ก็ไม่ได้ทิ้ง ได้เร่งคณะทำงานไปสอบปากคำ "อดีตพระอลงกต" ในเรือนจำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่าง ๆ เนื่องจากมีหลายเรื่องยังเป็นข้อสงสัย เช่น ประเด็นโรงแรม มีการนำเงินวัดไปซ่อมบำรุงห้องพัก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 24 ประเด็น ที่มีการตั้งข้อสงสัย
เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาล็อตที่ 2 เป็นการตั้งต้นคดีใหม่ แยกออกจากคดีแรก ที่เป็นเรื่องของ "หมอบี" และ "อดีตพระอลงกต" จึงต้องขอเวลาสักระยะ เพราะเป็นเรื่องของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด
ส่วนกรณีตลกชื่อ 3 พยางค์ ที่เกี่ยวข้องกับวัดนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งดำเนินการกับตลกคนดังกล่าว
