ที่แท้ ฝีมือพ่อแม่ใจโหด! เผาร่างลูกน้อยเพิ่งเกิด 2 วัน ในเตาเผาถ่าน อ้างหลังคลอดลูกแล้วหน้ามืด เผลอนอนทับลูก รู้สึกตัวอีกทีลูกเสียชีวิตแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนำลูกไปเผา ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะ เด็กชายมีบาดแผลกระแทกที่ศีรษะด้านหลังอย่างรุนแรง
วันที่ 20 สิงหาคม 2568 จากกรณีพบศพเด็กทารกถูกเผาในเตาถ่านเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ แก้วหาญ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.บ้านฝางว่า มีชาวบ้านพบศพทารกถูกเผาอยู่ในเตาเผาถ่าน พื้นที่บ้านหินฮาว หมู่ 4 ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บ้านฝาง สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยพบว่าเป็นพ่อและแม่ของทารกดังกล่าว หลังจากก่อเหตุได้พากันหลบหนีกลับไปยังภูมิลำเนาของตน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมพ่อ อายุ 30 ปี ชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้ที่บ้านพัก และจับกุมแม่ อายุ 27 ปี ชาว อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้ที่บ้านพัก พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านฝาง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาฝ่ายชาย
พ.ต.อ.กรภพ เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง เผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ฝ่ายหญิงคลอดบุตรชาย เป็นลูกคนที่ 2 เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ภายในห้องคอนโดแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองขอนแก่น ตามลำพัง ซึ่งฝ่ายชายไปทำงาน โดยเด็กเสียชีวิตในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หลังที่จากนอนทับลูก หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ทั้งคู่ได้พาทารกไปยังพื้นที่บ้านหินฮาว ก่อนนำศพไปเผาทำลายที่เตาเผาถ่านของชาวบ้าน โดยทั้งสองอ้างว่า รู้จักกับเจ้าของที่ดินเมื่อหลายปี ก่อนจึงรู้ว่ามีเตาเผาถ่านอยู่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับร่างของลูก จึงตัดสินใจนำศพลูกมาเผา
จากผลชันสูตรแพทย์เบื้องต้นพบว่า เด็กชายมีบาดแผลกระแทกที่ศีรษะด้านหลังอย่างรุนแรง สันนิษฐานว่า จะเป็นการกระแทกของแข็งไม่มีคม และไม่พบร่องรอยการกดทับที่หน้าอก ตามคำให้การแม่ของเด็ก ที่อ้างว่า หลังคลอดหน้ามืดเผลอทับลูกจนเสียชีวิต โดยตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าว เพราะจากผลชันสูตรร่างเด็ก พบว่า เด็กมีชีวิตหลังคลอดแล้ว เช่น การร้องไห้ การกินนม การขับถ่าย โดยตรวจพบขี้เทาในลำไส้ แสดงถึงระบบการย่อยอาหารได้เริ่มทำงาน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน โดยฝ่ายชายเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์และยาเสพติด ขณะที่ฝ่ายหญิงเคยต้องคดีลักทรัพย์และพ้นโทษมาแล้วหลายปี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อทั้งสองคือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันปิดบัง ซ่อนเร้น อำพรางศพ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป