พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ที่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังไม่เกิน 25 ปี ปัจจุบัน มีผู้ต้องขัง 2,554 คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด การดูแลสุขภาพผู้ต้องขังตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ดำเนินการตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ต้องขัง ผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานครบทุกด้าน
มีโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย สนับสนุนบริการทางสุขภาพ ยา เวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาล โดยผู้ต้องขังใหม่มีการแยกกักโรค ตรวจคัดกรองวัณโรค, เอชไอวี, ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบ ซี ส่วนผู้ต้องขังหญิงได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกทุกคน มีพยาบาลวิชาชีพ 4 คน, นักจิตวิทยา 1 คน และอาสาสาธารณสุขเรือนจำ 134 คน คิดเป็น 1 คน ต่อผู้ต้องขัง 19 คน, มีอาคารพยาบาล ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน, ห้อง X-Ray, ห้องทันตกรรม โดยทันตแพทย์จากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาเข้าไปตรวจรักษา เดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงห้อง Telemedicine ให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ หรือรับการรักษาเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาล
ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้รับการตรวจประเมินมาตรฐานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับผู้ต้องขัง 10 ด้าน ผ่านเกณฑ์ในระดับ A มีการตรวจวัดคุณภาพด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ การกำจัดขยะมูลฝอย รวมถึงขยะติดเชื้อ
มีห้องแม่และเด็ก แยกสำหรับการให้นม และเลี้ยงดูเด็กแรกคลอดถึง 3 ขวบ, มีการตรวจสอบสิทธิการขึ้นทะเบียน การย้ายสิทธิการรักษาพยาบาล การมีบัตรประชาชน การขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุร้อยละ 52.17, ผู้พิการ ร้อยละ 36.59 การบันทึกข้อมูลประวัติผู้ต้องขัง เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับโรงพยาบาล และระบบ OPD Card โดยก่อนพ้นโทษจะได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพจิต และสารเสพติด และเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ในหลักสูตรต่าง ๆ ใน 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ต้องขังจิตเวชพ้นโทษ 59 คน ทุกคนมีการส่งต่อข้อมูลเพื่อประสานการดูแลจากหน่วยงานและโรงพยาบาลในพื้นที่
ช่วงบ่าย ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลแม่ข่าย ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ มีคลินิกให้คำปรึกษาดิจิทัลสุขภาพ สำหรับผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงผู้ต้องขังในเรือนจำ และมีห้องตรวจรักษาผู้ต้องขัง แยก เพื่อความปลอดภัย และพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วย โอกาสนี้ เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวกับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ต้องขังป่วยอย่างเท่าเทียม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ได้รับผู้ต้องขังป่วยเข้ารับการรักษา 413 ครั้ง ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง
