อส.ตร.ระเบิดขมับหวังหนีผิดหลังถูกแจ้งจับอนาจารนักเรียน

อส.ตร.ระเบิดขมับหวังหนีผิดหลังถูกแจ้งจับอนาจารนักเรียน

View icon 902
วันที่ 23 ส.ค. 2568 | 16.56 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อส.ตร.คว้าปืนระเบิดขมับกลางวัดเพื่อหนีผิด หลังถูกผู้เสียหาย แจ้งความพยายามอนาจารเด็ก 15 ปี ค้นห้องเช่า พบจดหมายขอโทษ

วันนี้ ( 23 ส.ค.68) ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณสวนหย่อม ภายในวัดใหญ่บางปลากด ซอยสุขสวัสดิ์ 100 หมู่ที่ 3 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ทาง พ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายอเนก อายุ 62 ปี นอนพิงกับพุ่มไม้หายใจรวยริน อาการสาหัส สวมชุดลายพรางทหาร มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวา กระสุนฝังใน ข้างลำตัวพบอาวุธปืนขนาด .22 ตกอยู่ และมีปลอกกระสุนปืนคาลำกล้อง 1 นัด ห่างกันเล็กน้อยพบขวดสุรา ล้มกลิ้งอยู่ 2 ขวด กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบถามพ่อค้าขายข้าวแกง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเข็นรถขายของมาตั้งบริเวณหน้าสวนหย่อม เห็นผู้บาดเจ็บนอนหลับ มีเสียงกรน และเห็นขวดเหล้าล้มอยู่ ตอนแรกคิดว่าเมาหลับ แต่ไปเห็นว่ามีเลือดออกที่หัวจึงรีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัย และตำรวจ ให้มาตรวจสอบ กระทั่งทราบว่ามีบาดแผลถูกยิง

ต่อมาตำรวจได้เดินทางไปค้นบ้านเช่า ภายในซอยร่วมพัฒนา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร พบจดหมายลาตายของผู้บาดเจ็บเขียนทิ้งวางไว้ ข้อความว่า “นะ ตอนนี้ คำพูดไม่ดี ทำให้ตัวเองมีภัย เพราะฉะนั้นโทษตัวเอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอโทษ ไก่ ด้วย แต่ไม่ทำใครเสียหาย ลาก่อนทุกคน เสียหาย ทั้งนี้ที่บอกว่าจับทุกอย่าง ที่แล้วมาไม่เป็นความจริงตลอดไป ใช้หนี้ครั้งนี้ด้วยชีวิต ลาก่อนทุกคน”

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นาย อเนก เป็นอาสาสมัครตำรวจชุมชน(อส.ตร.) และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และค่อยช่วยงานอำนวยการจราจรอยู่เป็นประจำ แต่มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายไปแจ้งความว่าไปก่อเหตุพยายามอนาจารนักเรียนหญิงคนหนึ่ง และกำลังจะเจรจากันในวันอังคารนี้ คาดว่า นายอเนก กลัวมีความผิดจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนระเบิดขมับตนเอง

เจ้าหน้าที่ได้จึงบันทึกภาพ และลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญตัวผู้เสียหาย พยานในที่เกิดเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง