เจาะประเด็นข่าว 7HD - ปริศนาข้อมูลประวัติหลวงพ่ออลงกต กลายเป็นเรื่องซับซ้อนขึ้นมาทันที ที่ปรากฎข้อมูลไม่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน ทั้งเรื่องชื่อหลวงพ่ออลงกต ที่ไปทับกับชื่อของอดีตข้าราชการที่เสียชีวิต เลขบัตรประชาชนที่ซ้ำกัน และยังผูกโยงการโอนเงินเข้าบัญชี "กองทุนอาทรประชานารถ"
สรุปเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฎออกมาได้แบบนี้ ชื่อของหลวงพ่ออลงกต และชื่อของอดีตข้าราชการที่เสียชีวิตเหมือนกัน คือชื่ออลงกต แตกต่างกันที่นามสกุล ระหว่างคำว่า "พลมุข" และ "พูลมุข"
ถ้าดูจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ "หลวงพ่ออลงกต" เกิด โต และเรียนที่ขอนแก่น ก่อนจะบวช และมาอัพเดตบัตรประชาชนปี 2552 ว่าอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ส่วน นายอลงกต มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อพ่อ-แม่ ไม่ตรงกัน วันเดือนปีเกิดก็ไม่ตรงกัน
นั่นจึงเป็นที่มาที่เมื่อคืนนี้ กรมการปกครอง ถึงโพสต์ข้อความระบุว่า หลวงพ่ออลงกต และนายอลงกต เป็นคนละคนกัน เพราะเลขประจำตัวประชาชน ไม่ตรงกัน
แต่ทีนี้ก็เป็นปัญหาอีกเหมือนกัน เพราะในเอกสารสมุดทะเบียน "สัทธิวิหาริก" และใบสุทธิ กลับเขียนเลขบัตรประชาชนตรงกับของ นายอลงกต ผู้เสียชีวิต
และเมื่อมีการทดลองโอนเงิน กลับพบว่าสามารถโอนเข้า "กองทุนอาทรประชานารถ" ได้ ซึ่งเรื่องนี้ กรมการปกครอง ก็มาชี้แจงเพิ่มอีกว่า
เดิม "หลวงพ่ออลงกต" ชื่อ "เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว" ต่อมาปี 2552 เปลี่ยน ชื่อเป็น "อลงกต พูลมุข" โดยมีหลักฐาน การทำรายการบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายหลวงพ่อ ทุกรายการ ไม่มีการเปลี่ยนเลขประจำตัวประชาชน ส่วน นายอลงกต พลมุข ผู้เสียชีวิต ก็มีหลักฐาน รายการทำบัตรประจำตัวประชาชน เป็นรูปถ่าย นายอลงกต คนเดียว ไม่มีภาพใบหน้าบุคคลอื่น
สอบถามกับ นายกสภาทนายความ มีโอกาสไหมที่ชื่อของบุคคล นามสกุล หรือแม้แต่เลขบัตรประชาชน จะออกข้อมูลซ้ำกัน ก็ยอมรับว่าเคยมีคดีความทำนองนี้เกิดขึ้นจริง แม้แต่ตนเองยังเคยถูกเจ้าหน้าที่สะกดชื่อ นามสกุลผิดมาแล้ว
ไม่ว่าจะมีคำชี้แจงออกมาอย่างไรก็ตามแต่ พอได้ไปสอบถาม "รุ่ง" ภรรยาของ นายอลงกต อดีตข้าราชการที่เสียชีวิต ซึ่งมีชื่อตรงกับ "หลวงพ่ออลงกต" ก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจ และอยากให้หลวงพ่อออกมาชี้แจ้ง เพื่อความสบายใจของครอบครัว
ได้ฤกษ์ที่ ทนายความชุดใหม่ จะชี้แจงเรื่องนี้เสียที นอกจากเรื่องประวัติคุณความดีที่ "หลวงพ่ออลงกต" ทำเพื่อผู้ได้รับความเดือดร้อน ประเด็นที่ถูกถามเกี่ยวกับบัตรประชาชน มีเพียงคำยืนยันว่า หลวงพ่อ นามสกุลพูลมุข และข้อมูลตรงตามทะเบียนราษฎร์ ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยังไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก ขอไปทำการบ้านเพิ่ม แล้วจะมาตอบครั้งหน้า
นอกจากนี้ ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุ ยังได้ชี้แจงในอีกหลายประเด็น ตั้งแต่ประเด็นผู้ป่วย HIV ว่าแม้จะอยู่ในวัดแค่ 140 คน แต่จริง ๆ แล้ว มีคนที่ต้องดูแลต่อเนื่องรวม 1,260 คน มูลนิธิที่ช่วยเหลือ หลวงพ่ออลงกต ปัจจุบันมี 5 มูลนิธิ และแต่ละมูลนิธิก็ไม่เกี่ยวกับวัด และไม่ใช่ของวัด ส่วนเงินที่ หลวงพ่ออลงกต ได้รับบริจาคมา และนำเข้ามูลนิธิ ก็เป็นเงินส่วนตัวของหลวงพ่อ ส่วนที่ดินที่ใช้ชื่อบุคคลถือแทนวัดจริง ๆ แล้ว เป็นการถือแทนมูลนิธิ ส่วนโรงเรียนนาถะศาสตร์ สร้างสนามฟุตบอล และใจฟ้าฟาร์ม รวม 190 ไร่ ยืนยันว่าไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อความหรูหราฟุ่มเฟือย แต่ช่วยเหลือเด็กยากจนที่มีทักษะทางกีฬาที่ดี เพื่อพัฒนาเด็กให้มุ่งสู่อนาคตที่ดี นักฟุตบอลทีมชาติก็มาฝึกซ้อมเก็บตัวที่นี่ ส่วนที่ในอำเภอดินหนองม่วง 2,000 ไร่ จริง ๆ มีเนื้อที่เพียงประมาณ 800-900 ไร่เท่านั้น
หลังแถลงข่าว "นายเฉลิมพล" ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องเลข 13 หลักเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ยังปฏิเสธเหมือนเดิม อ้างว่าเพิ่งทราบข้อมูลเรื่องที่เลข 13 หลัก ตรงกัน อยากให้ผู้สื่อข่าวไปตรวจตสอบเรื่องนี้กับทาง ทะเบียนราษฎร์ มากกว่าไปไล่สอบถามญาติ นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า ชื่อ "นายอลงกต พลมุข" มีถึง 3 คน ก็เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งทราบ และตอนนี้ก็กำลังตามหาคนที่ 3 อยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามเรื่องนี้ไปกับแหล่งข่าวภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่า ทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่ใช่ประเด็นหลักในการสืบสวนคลี่คลายคดี ตำรวจยังคงมุ่งเป้าไปที่เรื่องแรก คือคดีของ "หมอบี" กับการพิสูจน์ว่า มีการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ หรือไม่ มองว่าเรื่องที่กำลังเป็นข่าว เป็นเพียงเรื่องเล็ก ยังมีเรื่องใหญ่กว่านี้ที่กำลังดำเนินการ จะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้