ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา รถตู้มูลนิธิได้ขับมาตามถนนยายล้าโดยเปิดสัญญาณไฟไซเรน เมื่อมาถึงสี่แยกไฟแดงบ้านฉาง รถตู้มูลนิธิได้ขับฝ่าสัญญาณไฟแดง แล้วข้ามแยกไฟแดงไปทางซอยวัดบ้านฉาง ในขณะนั้นรถยนต์เก๋ง สีน้ำเงิน ที่มุ่งหน้ามาจาก อ.เมืองระยอง กำลังมุ่งหน้าไปทาง อ.สัตหีบ ได้ชนกับรถตู้มูลนิธิที่ขับตัดหน้า ทำให้รถตู้มูลนิธิคันดังกล่าวพลิกคว่ำชนกับรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่ประมาณ 4 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 13 คน
ต่อมาตำรวจ สภ.บ้านฉาง ได้แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา กับผู้ขับขี่รถตู้มูลนิธิคันดังกล่าว คือ 1.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 2.ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส 3.ขับขี่โดยประมาทหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และ 4.ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถประเภทสอง (ขนส่ง) และขับขี่รถโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ไฟแดง) ด้านนายกสมาคมกู้ภัย โดนด้วยเช่นกัน 2 ข้อหา
ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค. 68) ทางพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงเจ้าหน้าที่ขับรถพยาบาลของสมาคม และลูกข่ายอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ห้ามฝ่าฝืนสัญญาไฟจราจร โดยเด็ดขาด
นายสมชาติ ขาติกิติสาร ประธานศูนย์บรรเทาสาธารณภัยและอุบัติเหตุพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งไม่อนุญาตให้รถพยาบาล รถ น.เขตอาสาฯ และรถสนับสนุนสัญญาณไฟ ที่อยู่ภายใต้สังกัดของหน่วยงานฯ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรทุกกรณีโดยเด็ดขาด หากมีความจำเป็นเร่งรัดนำส่งผู้ป่วยผู้บาดเจ็บฉุกเฉินส่งรักษาโรงพยาบาล ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ให้แจ้งกลับมาที่ศูนย์วิทยุของหน่วยฯ เพื่อประสานตำรวจส่วนจราจรในเส้นทาง เพื่อขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ภายในรถพยาบาล ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติงาน
