จากกรณี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา มีแม่เด็กหญิง 3 คน จาก 3 ครอบครัว เดินทางจาก จ.สระบุรี ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาวของตนทั้ง 3 คน อายุ 7 ขวบเท่ากัน เป็นนักเรียนชั้น ป.2 เรียนห้องเดียวกันในโรงเรียนเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.สระบุรี ถูก นาย ก. (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ครูอัตราจ้าง สอนวิชาภาษาอังกฤษ ล่วงละเมิดทางเพศในห้องพักครูหลายครั้ง ตั้งแต่ ป.1 และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้หลายครั้ง โดยนาย ก. อาศัยช่วงพักกลางวันที่ครูคนอื่น ๆ ออกไปกินข้าวข้างนอกไม่มีใครอยู่ เรียกเด็กเข้าไปในห้องพักครู ให้เด็กนั่งตักแล้วกอดจูบลูบคลำ ใช้นิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ ก่อนสั่งห้ามไปบอกใคร ถูกกระทำมานานถึง 1 ปี ล่าสุดลูกถูกกระทำวันที่ 7 ก.ค. 68
โดยแม่ของหนึ่งในเด็กหญิงผู้เสียหาย บอกว่า ที่ผ่านมาลูกไม่กล้าบอกแม่ แต่แม่มารู้เรื่องจากเด็กรุ่นพี่ในโรงเรียนที่คุยกัน ถึงได้มาถามลูกจนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังทราบเรื่องแม่ทั้ง 3 คน ได้เข้าพบแจ้งเรื่องให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบ ซึ่งแม่ได้ทราบว่า นาย ก. เคยมีประวัติล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหญิงที่เคยสอนในโรงเรียนอื่น ก่อนจะย้ายมาที่โรงเรียนนี้ แต่ไม่ถูกดำเนินคดี เพราะมีการไกล่เกลี่ย เบื้องต้นผู้อำนวยการโรงเรียนได้มีคำสั่งย้ายนาย ก. ไปช่วยงานที่อื่น และตั้งกรรมการสอบสวน จากนั้นแม่ทั้ง 3 คน ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองแค เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเด็กหญิงทั้ง 3 คน ไปตรวจร่างกายแล้ว แพทย์ระบุว่า พบรอยฉีกขาดใหม่ที่เยื่อพรหมจรรย์ ซึ่งแม่ทั้ง 3 คน ต้องการดำเนินคดีกับนาย ก. ให้ถึงที่สุด เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ติดตามคดีให้ได้รับความเป็นธรรม
ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค. 68) หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.หนองแค นัดให้แม่เด็กหญิงทั้ง 3 คน ไปพบ ผกก. เพื่อนัดสอบสหวิชาชีพ หลังมีการสอบสหวิชาชีพ เด็กให้การชัดเจน พนักงานสอบสวน สภ.หนองแค จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นาย ก. ในข้อหา อนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี, อนาจารโดยใช้วัตถุอื่นใดที่ไม่ใช่อวัยวะเพศ, พรากและพาเด็กไปเพื่อกระทำอนาจาร โดยสามารถจับกุมตัวได้แล้ว จะจะส่งฝากขังศาล วันที่ 26 ส.ค. 68 นี้ พร้อมกับยื่นคัดค้านการประกันตัว
ด้านพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของที่เด็กให้การว่ามีการใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปหรือคลิปนั้น จะต้องมีการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหา ถึงแม้ว่าจะมีการลบข้อมูลไปแล้วก็จะต้องส่งทางพิสูจน์หลักฐานในการตรวจสอบ หากพบความผิดจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป และขอให้คุณแม่ทั้ง 3 ครอบครัวไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย หากมีอะไรให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที