เช้านี้ที่หมอชิต - ยังคงตามหาสาเหตุที่ "หลวงพ่ออลงกต" ต้องปกปิดข้อมูล สวมเลขบัตรประชาชนของนายอลงกต อดีตข้าราชการคนหนึ่งที่เสียชีวิตในใบสุทธิ แล้วยังมีการนำเลขบัตรประชาชน 13 หลัก มาทำธุรกรรมทางการเงินอีกด้วย
เรื่องนี้ พระครูบุญบาลประดิษฐ์ พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่ออลงกต เคยบอกว่า ตอนนั้น "หลวงพ่อคง" วัดเขาสมโภชน์ เป็นผู้พาหลวงพ่ออลงกตมาบวช แต่ไม่มีเอกสารมาให้ ตนเองเชื่อมั่นในตัวหลวงพ่อคง เลยบวชให้ ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ในเอกสารสมุดทะเบียน "สัทธิวิหาริก" พระอลงกตกรอกเองทั้งหมด
ส่วน นายเสริมวิทย์ พ่อของนายอลงกต อดีตข้าราชการที่เสียชีวิต ยืนยันว่า ลูกชายไม่เคยเปลี่ยนชื่อ อีกทั้งตนเองไม่ได้รู้จักกับหลวงพ่ออลงกต เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับว่า เคยได้ยินลูกชายเล่าเรื่องแปลก ๆ ให้ฟังว่า มีรุ่นพี่ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย อยากใช้ชื่อนามสกุลเดียวกับลูกชายตนเอง
แม้ข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่าทำไม หลวงพ่ออลงกต ถึงกรอกข้อมูลของนายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการกรมชลประทาน ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2566 ลงในใบสุทธิตอนบวชครั้งแรกปี 2529 และได้ข้อมูลนี้มาอย่างไร
อีกทั้งเพิ่งมาเปลี่ยนชื่อเมื่อ พ.ศ.2552 เป็น อลกต พูลมุข ต่างกันแค่นามสกุล แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มีข้อมูลชัดเจนแล้วว่า มีการนำเลขบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตมาทำธุรกรรมทางการเงินเมื่อไร
จากข้อมูลของธนาคาร พบว่า หลวงพ่ออลงกตนำ ใบสุทธิพระที่มีเลข 13 หลักของนายอลงกต อดีตข้าราชการกรมชลประทาน ไปเปิดบัญชีธนาคาร ตั้งแต่ปี 40 ทั้งที่ไม่ใช่เลขประจำตัวของตัวเอง ก่อนจะผูกเป็นหมายเลขพร้อมเพย์ เมื่อปี 2561 หลังเป็นข่าวธนาคารตรวจสอบย้อนหลัง พบเลข 13 หลักเป็นของคนอื่นจริง จึงอายัด และยกเลิกพร้อมเพย์นี้ไปแล้ว
ย้อนกลับมาที่ประวัติของหลวงพ่ออลงกต ยังคงมีหลายประเด็นที่ยังคลุมเครืออยู่ว่า หลวงพ่อมีเหตุผลอะไรต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงใช้ชื่อของคนอื่น หรือเพราะมีคดีติดตัว
จากข้อมูลหลังจากหลวงพ่ออลงกตเรียนจบ มศ. 1 ถึง มศ. 3 โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่น ช่วงปี 2517-2519 และเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน
จากนั้นช่วงปี 2520-2523 ย้ายมาเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเกษตรพิษณุโลก ตอนนั้นรู้จักกันในชื่อ "เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว แต่เรียนไม่จบ ปวช. ในภาคเรียนสุดท้าย หลังจากนั้นไม่มีข้อมูลของนายเกรียงไกรปรากฏอีกเลย
กระทั่งปี 2529 นายเกรียงไกร อุปสมบท แต่กลับใช้ชื่อ "พระอลงกต" โดยไม่ทราบสาเหตุ และใช้เลข 13 หลัก ตรงกับอดีตข้าราชการชลประทานที่เสียชีวิต จึงมีคำถามว่าช่วงเวลาที่หายไป 6 ปี "นายเกรียงไกร หรือ หลวงพ่ออลงกต อยู่ที่ไหน ทำอะไร เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา ซึ่งนับอายุแล้วใกล้เคียงกับช่วงที่ต้องเกณฑ์ทหารพอดี
เรื่องนี้ทีมข่าวในจังหวัดขอนแก่น ตรวจสอบข้อมูลพบว่าหลวงพ่ออลงกต ไม่มีประวัติทางการทหาร โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าเพราะการเก็บข้อมูลสมัยก่อน เป็นการเก็บข้อมูลทางเอกสาร และหากแฟ้มเอกสารเก็บนานเกิน 20 ปี จะถูกทำลายตามอายุความ
แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลยืนยันว่า หลวงพ่ออลงกต เคยมาลงทะเบียนทหารกองเกินที่อำเภอเมืองขอนแก่น และหลังลงทะเบียนแล้ว ไม่เคยมาตามหมายเรียกอีกเลย กระทั่งทหารหยุดส่งหมายเรียกในเวลาต่อมา จึงได้ข้อสันนิษฐานว่า อาจหนีเกณฑ์ทหาร ก่อนบวชเป็นพระ แล้วกรอกชื่อ เลขบัตรประชาชนของอดีตข้าราชการชลประทานที่เสียชีวิตในใบสุทธิ
เท่ากับว่าตอนนี้ "หลวงพ่ออลงกต" ยังติดค้างคำตอบอย่างน้อย 3 ปม ทั้งเรื่องเงินทำบุญที่รับจาก "หมอบี" แล้วพบว่าขาดหายไปกว่า 5.4 ล้านบาท , ปัญหาการซื้อที่ดินกว่า 2,000 ไร่ ที่สุดท้ายยืนยันว่ามีจริง ๆ แค่ 800-900 ไร่ และการสวมข้อมูลผู้เสียชีวิต นี่ถ้าไม่ได้คำตอบจากทีมทนายความที่จะนัดชี้แจงรอบ 2 คงก็ต้องรอไปถามจากหลวงพ่อเอง