ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรียกว่าฟ้าผ่ากลางดึก ตำรวจต้องเปิดปฏิบัติการก่อนกำหนดฟ้าสาง เพราะเห็น "หลวงพ่ออลงกต" ขึ้นรถตู้จากพื้นที่ "ใจฟ้าอะคาเดมี" ไม่รู้จะหลบหนีหรือไม่ ตัดสินใจเอาหมายศาลฯ เข้าจับกุมทันที
แม้ตำรวจจะเบลอใบหน้าของหลวงพ่ออลงกต ตอนที่เอาหมายศาลฯ ไปจับกุมตัวในรถตู้ก็ตาม แต่ยังพอจะจับเค้าได้ราง ๆ ว่า มีอาการนิ่งสงบ สีหน้ายิ้มแย้มเหมือนที่เราเห็นกันบ่อย ๆ แล้วยังมองไปที่เอกสารของตำรวจ เพื่อสอบถามรายละเอียดว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง
ถามว่าทำไมตำรวจต้องบุกไปจับกุมกลางดึก เวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ต้องแบบนี้ว่าจริง ๆ แล้ว ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ "หลวงพ่ออลงกต" และ "หมอบี" ไว้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามพฤติกรรม หลวงพ่ออลงกต มักเคลื่อนไหวอยู่ในวัด ไม่เคยออกไปไหนยามวิกาล ทีนี้เดิมก็มีกำหนดแผนกันว่าจะเข้าจับกุมตอนฟ้าสาง 06.00 น. วันนี้ และจะค้นพยานหลักฐานด้วยรวม 17 จุด
แต่ปรากฏว่า ชุดเฝ้าระวังไปสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกติ หลวงพ่อ ลงมาจากอาคาร ใจฟ้าอะคาเดมี มาขึ้นรถตู้ไม่รู้จะไปไหน จึงต้องตัดสินใจเข้าจับกุมก่อนกำหนด และจากการตรวจค้น ยังพบเงินสดหลักแสนบาท กระจายอยู่ตามกระเป๋าต่าง ๆ ซึ่งจะขยายผลต่อไปว่า เงินสดที่พบนั้นกำลังจะนำไปทำอะไร
ส่วน "หมอบี" ต้นเรื่องของการร้องเรียนให้ตรวจสอบที่ถูกออกหมายจับถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ ช่วงเช้าของวันนี้
หลังการจับกุม "ทนายเกิดผล" ทนายความที่เคยไปช่วยหลวงพ่ออลงกต ก่อนถอนตัวออกมา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า "ตอนเป็นทนายวัด ผมเคยบอก และเตือนทั้งหลวงพ่อ และกรรมการวัดแล้วว่า ถ้าไม่รีบเคลียร์เอกสารและข้อมูล สุดท้ายจะถูกจับ ในข้อหาฟอกเงิน"
หลายคนก็เข้าไปคอมเมนต์สอบถามกันต่อว่าแบบนี้จะต้องถึงขั้นให้หลวงพ่อสึกเลยไหม ทนายเกิดผลตอบว่า ถ้าไม่ได้รับการประกันตัวก็ต้องสึก หรือบางคนถามว่าจะมีแค่หลวงพ่อโดนจับกุมคนเดียวหรือเปล่า ก็ตอบกลับไปว่า เดี๋ยวก็มีคนโดนจับเพิ่มอีก
ทีมข่าวเข้าไปสอบถามความรู้สึกญาติของ "หลวงพ่ออลงกต" ก็ขอความร่วมมือเหมือนเดิมว่าไม่ให้ถ่ายภาพ แต่ยินดีให้ข้อมูลว่าติดตามเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ส่วนตัวก็รู้สึกตกใจเป็นห่วงน้องชาย แต่ตอนนี้ก็ต้องให้ตำรวจดำเนินการไปก่อน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่น้องชายคนเดียว แต่คิดว่าน่าจะเป็นขบวนการ การได้พาตัวไปสอบก็จะช่วยให้เกิดความกระจ่าง
ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า ต้นสายปลายเหตุของการเปลี่ยนชื่อจาก "เกรียงไกร" เป็น "อลงกต" เพื่อหนีการเกณฑ์ทหาร ครอบครัวก็กำลังพูดคุยกันอยู่ว่าจะใช่หรือไม่ พร้อมกับขอบคุณที่ไม่ถ่ายภาพของ "ป้า" ตามที่ขอความร่วมมือ เพราะตอนนี้มีภาพหลุดออกไปบางช่อง ก็ยอมรับว่าค่อนข้างไม่สบายใจ
