เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานทั้ง ทิดจอร์จ และ หมอบี ต้องนอนในเรือนจำ หลังถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่ง ทิดจอร์จ ไม่ได้ยื่นประกัน แต่ หมอบี แม้จะยื่นประกันแต่ศาลฯ ไม่ให้ประกันตัว
เป็นสภาพของ อดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ ขณะที่ถูกคุมตัว พร้อมกับ หมอบี เพื่อไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขัง เมื่อช่วง 10.00 น. เมื่อวานนี้ ที่ทั้ง 2 คน ดูอิดโรย และแทบไม่พูดอะไร
และในช่วงบ่ายวานนี้ ศาลฯ ได้อนุญาตรับฝากขังตัวทั้ง 2 คน โดย ทิดจอร์จ ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว ส่วน หมอบี ได้ยื่นขอประกันตัว แต่ศาลฯ พิจารณาแล้วไม่อนุญาต เพราะคดีมีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
หลายคนอาจจะคิดว่าคดีนี้จะอัตราโทษสูงขนาดไหน เพราะเป็นคดีเล็ก แค่ยักยอกเงินบริจาค แต่ พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตนายตำรวจ ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ ว่า การโกงเงินบริจาค 1 ครั้ง คือ 1 กรรม ตำรวจไปเจอต้นขั้วใบอนุโมทนาบัตรประมาณ 20,000 ใบ คูณกันไปกันมา ถ้าศาลฯ พิพากษาเรียงคดีทั้งหมดนี้จะนับเป็นโทษกี่ปี ไปฟังจากคำตอบ
อดีตกรรมการมูลนิธินาถะ คนสนิทของ หมอบี เปิดใจพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์ว่า คิดไม่ถึงว่า เลขาฯ ของหมอบี จะเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ และเชื่อว่าเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่หลายคนสงสัย ภรรยาของหมอบี ก็น่าจะไม่รู้เรื่อง
ส่วน บิ๊กเต่า ที่เป็นคนเปิดเผยว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ หมอบี ไม่ใช่ ทิดจอร์จ ตอนที่ไปค้นหาพยานหลักฐานก็ยังเจอคนใกล้ชิดกับ หมอบี อยู่ในบ้านถึง 3 คน และ 1 คน ที่อยู่ห่างออกไป ต้องยอมรับว่า หมอบี เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ เส้นทางการเงินจึงกระจายแตะไปถึงคนใกล้ชิดกว่า 30 คน จึงขอฝากไว้ตรงนี้ ใครที่เอาทรัพย์สินจาก หมอบี ไปครอบครอง แนะนำให้รีบเอามาคืนวัดพระบาทน้ำพุ เพราะถ้าเริ่มสอบเป็นคดีเมื่อไร ระวังจะมีความผิดฐานฟอกเงิน
ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำของ ทิดจอร์จ ในอดีตที่อ้างผู้ป่วยโรคเอดส์ในการเรียกรับบริจาค อาจจะถือว่าเป็นการฉ้อโกง บิ๊กเต่า บอกว่า ที่แนวทางการสอบสวนไม่ได้ไปทิศทางดังกล่าว เพราะต้องการให้เงินกลับเป็นของวัด เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยตามเจตนาของผู้บริจาค
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเรื่อง ทิดจอร์จ มีเมียและลูกหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่พบหลักฐาน แต่ได้มีการเก็บ DNA ทิดจอร์จ ไว้แล้ว หลังจากนี้หากสงสัยก็สามารถตรวจสอบได้
