พยากรณ์อากาศ 30ส.ค.-2ก.ย.68 มีฝนตกหนัก “เกษตรกร” ระวังโรคพืชโรคสัตว์ เร่งค้ำยันกิ่งลำต้นป้องกันลมแรง ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ เปิดเครื่องตีน้ำเพิ่มออกซิเจนหลังฝนตก
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร โดยกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ลักษณะอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 2 ก.ย.68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จึงมีคำแนะนำสำหรับเกษตรกร ดังนี้
ภาคเหนือ : ฝนฟ้าคะนอง 60 – 80 % / ฝนหนักบางแห่ง / อุณหภูมิ21 – 33 °ซ. / ความชื้นสัมพัทธ์85 – 95 % ความยาวนานแสงแดด 2 – 4 ชม.
พืชไร่ ตรวจดูทางระบายน้ำในแปลงปลูก ระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ข้าว
พืชสวน ทำสวนให้โปร่งเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในลิ้นจี่ ลำไย และควรค้ำยันกิ่งและลำ
ต้นของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการโค่นล้ม
ปศุสัตว์ จัดการโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความอับชื้น ระวังโรคปอดบวมและโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์
อื่น ๆ ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก และควรสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ฝนฟ้าคะนอง 60 – 80 % / ฝนหนัก-หนักมากบางแห่ง / อุณหภูมิ21 – 32 °ซ. / ความชื้นสัมพัทธ์
85 – 95 % ความยาวนานแสงแดด 2 - 4 ชม.
พืชไร่ หลีกเลี่ยงการตากพืชผลและผลิตภัณฑ์การเกษตรไว้กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหายจากฝนตกระวังโรคที่
เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ข้าว
พืชสวน ทำสวนให้โปร่งเพื่อลดความชื้นสะสมในสวน ค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง ระวังโรคแอนแทรคโนสใน
ไม้ผล เช่น มะม่วง
ปศุสัตว์ ทำความสะอาดโรงเรือนและพื้นคอกไม่ให้ชื้นแฉะ และไม่ปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้กลางแจ้งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง
อื่น ๆ ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดูแลระบบระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน
ภาคกลาง : ฝนฟ้าคะนอง 40 - 80 % / ฝนหนักบางแห่ง / อุณหภูมิ23 – 33 °ซ. / ความชื้นสัมพัทธ์80 – 90 %
ความยาวนานแสงแดด 2 – 5 ชม.
พืชไร่ ผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว ฝนตกติดต่อกันให้ระวังโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ข้าว
พืชสวน ดูแลระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้ทำงานได้ปกติเพื่อไม่ให้มีน้ำท่วมขังที่อาจเป็นสาเหตุของโรคพืชจากเชื้อรา
ปศุสัตว์ จัดการโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความอับชื้น ระวังโรคปอดบวมและโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์
อื่น ๆ บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำหรือใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ให้ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
ภาคตะวันออก : ฝนฟ้าคะนอง 60 -80 % / ฝนหนัก-หนักมากบางแห่งในช่วง 30 ส.ค.- 2 ก.ย./ อุณหภูมิ23 –33°ซ.
/ ความชื้นสัมพัทธ์85– 95 % ความยาวนานแสงแดด 2 – 4 ชม.
พืชไร่ ควรระบายน้ำในแปลงปลูกให้เร็ว เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง และงดการใส่ปุ๋ยหรือสารเคมีช่วงฝนตก สำรวจโรค
และแมลงอย่างสม่ำเสมอ
พืชสวน ควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียนและพืชยืนต้น โรคแอนแทรคโนสในไม้ผลที่มี
เปลือกบาง รวมถึงควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ปศุสัตว์/ประมง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยง อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และควรเปิดเครื่องตีน้ำหลังจากฝนตก เพื่อเพิ่มออกซิเจนในบ่อเลี้ยงและป้องกันน้ำแยกชั้น
อื่น ๆ ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก / คลื่นสูง 2 ม. ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือ
ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคใต้ : ฝั่งตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 30 -60 % / ฝนหนักบางแห่ง / อุณหภูมิ23 –34 °ซ. / ความชื้นสัมพัทธ์80 –90 % ความยาวนานแสงแดด 4 – 6 ชม. , ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง 40 -80 % / ฝนหนัก-หนักมากบางแห่งในช่วง 30 ส.ค.- 2 ก.ย. / อุณหภูมิ23 –33 °ซ. / ความชื้นสัมพัทธ์85 –95 % ความยาวนานแสงแดด 2 – 5 ชม.
พืชไร่ พื้นที่ซึ่งมีฝนตกไม่สม่ำเสมอ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน
พืชสวน ทำสวนให้โปร่ง และดูแลระบบทางระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง และระวังโรคใบร่วงยางพารา
ปศุสัตว์/ประมง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งควรดูแลสภาพน้ำโดยเปิดเครื่องตีน้ำ
หลังจากฝนตกเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น รวมทั้งยกขอบบ่อให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำฝนจากภายนอกไหลบ่าลงบ่อ
โดยตรง
อื่น ๆ ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง /อันดามัน คลื่นสูง 2 ม. /อ่าวไทย คลื่นสูง 1 - 2 ม. ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง