ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พลทหารอดิศร ที่เหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 6 บริเวณปราสาทตาควาย อาการปลอดภัย วันนี้ญาติ ๆ ไปผูกข้อมือรับขวัญ
"พลฯ อดิศร" เหยียบทุ่นระเบิดกำลังใจดี จ.สุรินทร์
พ่อ แม่ ภรรยา และลูก อายุ 3 ขวบ ของ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง เดินทางจากจังหวัดนครราชสีมา ไปถึงที่โรงพยาบาลสุรินทร เพื่อเยี่ยมอาการลูกชาย
ทั้งครอบครัวได้ห้อมล้อมถามอาการ ซึ่ง พลทหารอดิศร ถึงกับน้ำตาไหล ภรรยาคอยซับน้ำตาให้ เท่าที่สังเหตุพลทหารอดิศร มีสีหน้าดีขึ้น แต่ยังอ่อนเพลียและเจ็บที่บาดแผล พ่อแม่ญาติพี่น้องได้ผูกข้อมือเพื่อรับขวัญและให้กำลังใจลูกชาย
แพทย์ผู้รักษา บอกว่า เมื่อวานนี้ ใช้เวลาผ่าตัดเกือบ 2 ชั่วโมง ไม่สามารถรักษาข้อเท้าขวาไว้ได้ จึงต้องทำการตัดช่วงหน้าแข้ง และผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดที่ข้อมือขวา ใบหน้า และตามร่างกายออกทั้งหมด อาการตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการในห้องไอซียูอีกซักระยะ
นอกจากญาติแล้ว ผู้บังคับบัญชา ก็นำกระเช้าผลไม้ไปมอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวกับทีมข่าวเราว่า น้องปฏิบัติหน้าที่อย่างดี ลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่แผ่นดินของไทยเรา ก่อนที่จะเหยียบทุ่นระเบิด ท่านยังมอบเงินส่วนตัวให้ลูกสาว อายุ 3 ขวบ ของพลทหารอดิศรด้วย
ภรรยาบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ไม่ค่อยดี เมื่อติดต่อได้ ก็บอกกับตนเองว่า ได้ทำชายผ้าถุงของแม่หล่นหายไป ในใจก็คิดว่าเป็นลางสังหรณ์หรือเปล่า จนมาเกิดเรื่องขึ้น อยากฝากไปถึงทหารกัมพูชา ขอให้หยุดเสียทีเถอะ มันยืดเยื้อมานานแล้ว อย่าให้สูญเสียมากกว่านี้เลย
เหตุการณ์นี้ถือเป็นรายที่ 6 แล้ว ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด โดยรายที่ 5 สิบเอก ธีรพล เพียขันที อาสาสมัครทหารพราน เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม กับรายที่ 6 พลทหารอดิศร ห่างกันเพียง 15 วัน
และนับเป็นทหารนายที่ 3 ที่เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณรอบปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย เกิดขึ้นก่อนหยุดยิง 1 ครั้ง หลังหยุดยิง 2 ครั้ง
แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งยิง หากพบ "กัมพูชา" วางทุ่นระเบิด
แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งยิงทันที หากพบทหารกัมพูชาลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด
พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาพูดถึงพลทหารอดิศร เหยียบทุ่นระเบิดรายล่าสุดเมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่า เป็นระเบิดใหม่ที่ทหารกัมพูชาลักลอบเข้ามาวางล้ำแนวลวดหนาม
ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทหารไทยเดินลาดตระเวนเป็นประจำ และยังตรวจสอบพบว่า บริเวณโดยรอบจุดที่ระเบิดนั้นมีทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 3 ลูก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาของฝั่งกัมพูชาที่ตั้งใจละเมิดอธิปไตยของไทย
ซึ่งได้แจ้งเตือนทหารในพื้นที่ให้ลาดตระเวนด้วยความระมัดระวัง ใช้โดรนบินลาดตระเวน และกล้องวงจรปิดแทน หากพบเห็นการละเมิดอธิปไตย ยิงได้ทันที
