หลบหนีนาน 5 ปี ! ตำรวจตามรวบลูกจ้างแสบ แอบบ้างเป็นเจ้าของร้าน หอบโทรศัพท์มือถือของลูกค้าที่ส่งซ่อม ฉกไปเกือบเกลี้ยงร้าน สุดท้ายหนีไม่รอด
วันนี้ ( 29 ส.ค.68 ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยตำรวจกองกำกับการ 4 จับกุม นายราชิต อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ฐานร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง และฉ้อโกง โดยจับกุมได้ใกล้สถานีรถไฟราชบุรี จ.ราชบุรี
สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2563 ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่าย และรับซ่อมโทรศัพท์ ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ใจกลางเมืองขอนแก่น เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายราชิต หลังมาสมัครงานเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์ หลังจากนั้น พบความผิดปกติในร้านหลายอย่าง เช่น กล้องวงจรปิดไม่ทำงาน อินเตอร์เน็ตไม่เชื่อมต่อกับกล้อง กล้องภายในร้านถูกหันไปทางอื่น กระทั่งมารู้ภายหลังว่า นายราชิต อ้างเป็นเจ้าของร้าน หลอกลูกค้าจะนำโทรศัพท์ส่งศูนย์ฯซ่อม เมื่อสอบถามไปที่ศูนย์ฯ พบว่าไม่มีการนำโทรศัพท์ของลูกค้าไปซ่อมตามที่กล่าวอ้างจริง จึงสอบถามไปยังนายราชิต อ้างว่านำโทรศัพท์มือถือของลูกค้ากลับไปซ่อมที่บ้าน และพยายามบ่ายเบี่ยงไม่นำโทรศัพท์มือถือของลูกค้ามาคืน
กระทั่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค.63 นายราชิต ได้ลักเอาโทรศัพท์มือถือที่ลูกค้านำมาซ่อมและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของร้านที่มีราคาสูง รวมกว่า 20 เครื่อง แล้วหลบหนีไป จึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายราชิต ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น ทราบว่า หลังจากก่อเหตุนายราชิต ได้นำโทรศัพท์มือถือของลูกค้าไปตระเวนขายตามร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ในจังหวัดขอนแก่น และย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ไม่เป็นหลักแหล่ง ซ้ำยังไปก่อเหตุฉ้อโกงในคดีอื่นอีก ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้มีการออกหมายจับไว้เช่นกัน กระทั่งทราบว่า นายราชิต ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ต่อมาวันที่ 28 สิงหาคม 2568 สืบทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางมารับจ้างขนผัก ในพื้นที่ จ.ราชบุรี จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบนายราชิต ปรากฎตัวอยู่ใกล้สถานีรถไฟราชบุรี จึงได้นำหมายจับเข้าจับกุม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุจะได้ทำการสืบสวนติดตามตัวต่อไป
สอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากความเข้าใจผิด ระหว่างตนเองกับนายจ้างเท่านั้น
