"ภูมิธรรม” โต้ข่าวเด้ง ผบ.ตร. ยืนยันสัมพันธ์ยังดี เลื่อนประชุม ก.ตร. เหตุเรื่องร้องเรียน มีอำนาจสั่งเลื่อนแต่ไม่ขยายเวลา
วันนี้ (29 ส.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการเลื่อนประชุมกรรมการข้าราชการตำรวจ ว่า ตนไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวเลย ตนไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีการกำหนดวันประชุมแล้วนั้นก็มีโผตำรวจออกมา และก็มีเรื่องร้องเรียนออกมา ซึ่งมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ต้น ทำให้ตนก็แปลกใจว่ารู้ได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่ได้มีการประกาศออกมา แต่เมื่อมีการนำมาพูดถึงรายละเอียด และที่สำคัญมีการร้องเรียนจาก 4 ท่าน ซึ่งมีนายตำรวจอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทำงาน ส่วนหนึ่งเป็นนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจในคดีชั้น 14 คือ พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งได้เขียนจดหมายร้องเรียน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงเรื่องร้องเรียนดังกล่าวจะมีการพิจารณาอย่างไรได้บ้าง โดยหากวินิจฉัยความเห็นในแง่กฎหมาย กฤษฎีกาก็บอกว่าเป็นสิทธิ์ที่จะสามารถหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ เพราะยังไม่ได้มีความผิดอะไร ส่วนจะรับได้หรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของ ก.ตร.
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า กรณีของพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ได้บอกตนว่าไม่ได้สนใจว่าตัวเองได้หรือไม่ แต่เห็นว่าในการจัดการครั้งนี้มันไม่ชอบ ก็เป็นตามข่าวที่ว่าไป จึงอยากให้มีการทบทวน ส่วน พล.ต.ต. นพศิลป์ ก็เป็นตำรวจที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ได้รับการพิจารณา เพราะฉะนั้น ทันทีที่ตนไปถึงก็ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สอบถามว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ผบ.ตร. ก็พยายามอธิบายหลายเรื่อง ตนไม่มีปัญหาอย่างอื่นเลย แต่หากมีการร้องเรียนแล้วตนไม่สามารถทำได้ ตามกฎหมายก็จะมีปัญหา ดังนั้น ข้อเสนอแนะของทางกฤษฎีกาก็ถือเป็นข้อข้อเสนอแนะที่นำไปพิจารณาได้
นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า ตนได้พูดคุยกับ ผบ.ตร. ได้บอกว่าทุกอย่างได้ทำแล้ว สิ่งที่มีการเสนอมาคือเรื่องระบบการพิจารณา หากข้ามไปก็จะไปกระทบกับคนอื่น ๆ ในอนาคต และยังมีเวลาจึงเลื่อนออกไปถึงแค่วันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งยังอยู่ในกรอบกฏหมายทุกประการ ยืนยันว่า อำนาจในการปิดประชุมก็สามารถทำได้ และเลื่อนการประชุม แต่ขยายกรอบระยะเวลาไม่ได้
ส่วนกระแสข่าวการเด้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นเรื่องที่เกินเลยไป ตนไม่เคยพูด และความสัมพันธ์กับ ผบ.ตร. ก็ยังดีอยู่ ตนเห็นใจ ผบ.ตร. และเห็นใจตัวเองด้วย เพราะโดนหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และอยู่ ๆ ไม่ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลเลย ที่เขาร้องมาคือให้มีกระบวนการกลับไปทบทวน ซึ่งยังมีเวลาและหากตัดสินใจแล้วจะเลือกหรือไม่เลือกอย่างไรที่ประชุม ก.ตร. เป็นคนตัดสิน
“ผมไม่สามารถจะใช้อำนาจไปเที่ยวเด้งใครได้ การจะเด้ง ทุกอย่าง ต้องมีเหตุมีผล และท่านก็มีไมตรีจิต ผมก็บอกว่าถ้าผมตัดสินใจแบบนี้ผมรับผิดชอบ และว่าไปตามกระบวนการ ผมยังไดเพูดคุยกับ ผบ.ตร. ว่าต้องขอโทษสำหรับการประชุมที่มีเรื่องร้องเรียนมาจึงจะทำให้โปร่งใส ไม่อยากให้มีเรื่องคาราคาซัง”
นายภูมิธรรม ย้ำว่าเรื่องเด้ง ผบ.ตร. ไม่อยู่ในความคิด ความสัมพันธ์ของตนกับ ผบ.ตร. ก็ดี มีแต่คนจะปั่นให้ทะเลาะกัน มองว่าเวลานี้ทุกอย่างต้องทำอยู่ภายใต้กฎหมาย กรอบของวันที่ 31 ส.ค.68 และเป็นอำนาจของตนที่จะปิดการประชุม เมื่อเห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้น และกลับไปพิจารณา สำหรับเรื่องนี้ตนเคลียร์ชัดเจนแล้วไม่ต้องถามอีก
