โฆษก ทบ. ยืนยันตัดสินคดีคลิปเสียง ไม่กระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

โฆษก ทบ. ยืนยันตัดสินคดีคลิปเสียง ไม่กระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

View icon 170
วันที่ 29 ส.ค. 2568 | 14.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โฆษกกองทัพบก ยืนยันตัดสินคดีคลิปเสียง ไม่กระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ไม่กระทบ มองกัมพูชาพยายามที่จะใช้เวทีต่างประเทศ เป็นเครื่องมือกดดันไทย แต่ยังทำอะไรไม่ได้เพราะไทยมีความพร้อมในทุกเรื่อง กองทัพบกมีความพร้อมเผชิญสถานการณ์ทุกรูปแบบ

วันนี้ (29 ส.ค.68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์บ้านหนองจานว่า วันนี้ยังไม่ได้รับรายงานอะไรที่ผิดปกติ การประกาศกฎอัยการศึก เป็นมาตรการควบคุมและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เพราะมีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดเหตุจลาจล และเพื่อให้การเข้าออกในพื้นที่นั้นระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนทั้งสองฝั่ง ไม่มีใครอยากให้มีการประชันหน้ากัน เพราะอาจพัฒนาไปในจุดอื่นที่ค่อนข้างมีความน่ากังวล ซึ่งมวลชนรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ไทย ก็ไม่ได้มีความน่ากังวล เพราะมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารในพื้นที่

ส่วนเรื่องสร้างรั้วในจังหวัดสระแก้ว พื้นที่ที่มีความชัดเจน สามารถดำเนินการได้เลยหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า โดยหลักในพื้นที่ที่มีความเรียบร้อยแล้วก็น่าจะทำได้ เพียงแต่ว่าหน่วยไหนจะเป็นผู้ปฏิบัติเท่านั้นเอง แต่ในส่วนในพื้นที่ที่เป็นประเด็นกันส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีความแน่นอน เพราะไม่ได้เกิดการยอมรับระหว่างเส้นปฏิบัติการ โดยการสร้างรั้วนั้น ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่นการกระทำผิดกฎหมายด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า บ้านหนองจานเป็นศูนย์อพยพกัมพูชาในอดีต  หากเดือนกันยายนมีการประชุม GBC แล้วไม่ได้ข้อยุติ  สามารถใช้กำลังผลักดันผู้ที่อยู่ล้ำแดนไปได้หรือไม่ พล.ต.วินธัย ระบุว่า เป็นไปได้หมดเพราะพื้นที่ตรงนั้น มีความข้องเกี่ยวกับประชาชน อาจจะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งภาพรวมขณะนี้ว่ากัมพูชาเองพยายามที่จะใช้เวทีต่างประเทศ มาเป็นเครื่องมือกดดันไทย แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้เพราะไทยก็มีความพร้อมในทุก ๆ เรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การเมืองไทยตอนนี้รวมถึงการวินิจฉัยคดีคลิปเสียง จะส่งผลกระทบต่อชายแดนไทยหรือไม่ พลตรี วินธัย ระบุว่า ไม่กระทบ เพราะกองทัพได้รับความสนับสนุนจากทางฝ่ายรัฐบาลอยู่แล้ว และการทำงานในกรอบของฝ่ายทหารก็เป็นไปตามบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดเดิมหรือชุดใหม่ก็ไม่ส่งผลกระทบ เพราะกองทัพบกอยู่ในกรอบของหน่วยปฏิบัติ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับทางด้านบริหาร

ส่วนการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญภายในกองทัพบก จะสร้างรอยต่อหรือผลกระทบในการทำงานในพื้นที่ชายแดนทั้งฝ่ายกองทัพภาคที่ 1 และ 2 หรือไม่ พลตรี วินธัย ระบุว่า ก็ไม่น่ามีผลกระทบอะไร เพราะกองทัพภาคที่ 1-4  ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้รับผิดชอบ และกองทำงานภายในหน่วยงานทหาร เป็นการทำงานตามตำแหน่ง เพราะฉะนั้นตัวบุคคลจะไม่มีผลต่อการทำงาน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ไทยกัมพูชานั้น ตอบได้ยากว่าจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน ยอมรับว่ามีความไม่แน่นอน เพราะว่าจากในห้วงที่เรามีความตึงเครียดมา จะเห็นหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้น่ากังวลเพราะกองทัพบกมีความพร้อม ที่จะเผชิญสถานการณ์ทุกรูปแบบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง