หนุ่มขับเรือแค้นเพื่อนร่วมอาชีพชอบทำตัวเหมือนมาเฟีย จึงสาดสีใส่หน้า ก่อนใช้ชะแลงแทงหูเกือบขาด เพื่อนที่เพิ่งพ้นโทษเผยผู้ก่อเหตุถามว่าในคุกเป็นยังไงบ้าง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ
วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ บริเวณที่พักผู้โดยสารท่าเรือเกาะลอยศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
ที่เกิดเหตุ พบนายนพดล อายุ 52 ปี อาชีพขับเรือ มีคราบสีเปรอะเปื้อนบริเวณหน้าและเสื้อผ้า มีบาดแผลบริเวณศีรษะ ส่วนที่บริเวณหลังหูขวา มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ หูขวาเกือบขาด มีเลือดไหลกระจายเต็มพื้น มีบาดแผลที่บริเวณท่อนแขนทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อย่างเร่งด่วน
ส่วนคนก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นายมนัส อายุ 32 ปี อาชีพขับเรือเช่นกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายมนัสไว้ ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ศรีราชา
สอบถาม นายนพดล ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนเองกับผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องชกต่อยกันมาก่อน ตนเองก็คิดว่ามันจบไปแล้ว มาถึงวันนี้ ตนเองนั่งพักผ่อนอยู่โดยไม่ทันได้ระวังตัว นายมนัสก็เอาสีมาสาดใส่ แล้วก็เอาชะแลงมาตีตนเองซ้ำหลายครั้ง โดยก่อนนั้นสาเหตุเกิดจากการขับเรือ โดยเรื่องเกิดจากตนเองขับเรือเข้าไปใกล้เรือใหญ่อยู่ แล้วนายมนัสก็ขับเรือสร้างคลื่นให้เรือตนเองและเรือใหญ่กระแทกใส่กัน ก็เลยขึ้นจากเรือแล้วก็มาชกต่อยกันบนฝั่ง และมีการพูดจาแขวะกันไปมา ตนเองคิดว่าเรื่องคงจบกันไปแล้ว แต่ต้องมาเจอหน้ากันทุกวัน แต่วันนี้อยู่ดีดีนายมนัสก็มาก่อเหตุทำร้ายตนเองแบบนี้
ด้าน นายมนัส ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ว่า โมโหกันเรื่องขับเรือแรงทำให้เกิดคลื่น แล้วเรือสองลำกระแทกกัน ซึ่งนายนพดลชอบทำตัวเป็นมาเฟียคุมเรือ มักเอาเรือมาจอดแช่ทิ้งไว้ แต่ไม่ยอมไปวิ่งเรือ จอดทิ้งไว้เฉย ๆ ทำให้คนอื่นไม่มีที่จอด ตนเองมักถูกหาเรื่องอยู่ตลอด จนเคยชกต่อยกันมาแล้ว ซึ่งตนเองก็เก็บความแค้นไว้ตลอด จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนขับเรือทั้งคู่ แต่อยู่คนละบริษัท
ด้าน นายอดิศักดิ์ เพื่อนทั้งสองคน เปิดเผยว่า เรื่องเริ่มแรกคือทั้งสองเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกันมาก่อนเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นเหตุขับเรือแล้วทำให้เกิดคลื่น ทำให้เรือที่จอดอยู่ชิดกันกระแทกใส่กัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายมนัสได้มาคุยกับตนเองว่าข้างในคุกเป็นอย่างไร เนื่องจากตนเองเพิ่งพ้นโทษออกมา ตนเองก็ตอบกลับไปว่า นายจะเข้าไปอยู่หรือยังไง แล้วนายมนัสก็หายไปสักพัก ก่อนเดินกลับมาพร้อมกระป๋องสีและเหล็กตนเองถามว่าจะเอาไปทำอะไร แต่นายมนัสไม่ยอมตอบ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายมนัสผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป ส่วนนายนพดล เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนจะดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกระบวนกฎหมายต่อไป