ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง ใกล้ปราสาทตาควาย

View icon 216
วันที่ 2 ก.ย. 2568 | 06.48 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - กัมพูชาไม่สนข้อตกลงใด ๆ ล่าสุดทหารไทยไปพบระเบิดแสวงเครื่อง จากลูกปืน ค. ซุกอยู่พรมแดนไทย ด้านจังหวัดสุรินทร์

เป็นภาพที่มีการโพสต์ผ่านโซเชียล ก่อนที่ชาวเน็ตไทยจะช่วยกันแชร์ว่า กัมพูชาเมินทุกข้อตกลง หลังทหารไทยพบกับดักมรณะ เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จากลูกระเบิดปืน ค. ที่ถูกดัดแปลงใกล้แนวชายแดน บริเวณเนิน 350 แถว ๆ ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

หลังจากเมื่อวานนี้ ทหารไทยได้ตรวจพบ เวลา 11.49 น. ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ครั้งที่ 2 โดยฝ่ายกัมพูชาลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดที่พร้อมใช้งาน ใกล้เคียงฐานปฏิบัติการจู๊บอังกุย หรือฐาน Alpha ห่างจากแนวลวดหนามของฝ่ายไทยเพียง 5 เมตร

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้มีการลงภาพเดียวกัน พร้อมระบุว่า "ยุทธวิธีของทหารกัมพูชา สอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ตรวจพบทหารกัมพูชาดักซุ่ม และตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมระเบิดจากลูกปืน ค. 2 ลูก และและตะปูเรือใบจำนวนมาก"

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำและหลักฐานดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการใช้กับระเบิดแสวงเครื่อง เป็นอาวุธลอบโจมตีทหารไทยโดยหวังผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในดินแดนของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำยั่วยุ ที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน การกระทำดังกล่าวยังย้อนแย้งกับท่าที ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศ ว่าเป็นผู้รักสันติ และยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งที่ข้อเท็จจริง และหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด

โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ควรมีการแสดงออกที่เป็นรูปธรรม และตรวจสอบได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มิใช่เพียงการสร้างภาพ เพื่อผลทางการเมืองและการสื่อสาร

ขณะที่ กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่เก็บหลักฐานภายในโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ถูกกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายกัมพูชาตกใส่ จนต้องอพยพหนีตาย ทั้งคนไข้ และบุคลากรทางการแพทย์

กระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา ยิงเข้ามาในพื้นที่โรงพยาบาล จำนวน 3 นัด ส่งผลให้อาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอาคารภูมิพัฒน์ และอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนพระครูอาภัสธรรม (หลวงตารอด) ซึ่งเป็นอาคารห้องตรวจครรภ์มารดาก่อนคลอด

เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด โดยเฉพาะสะเก็ดระเบิด เพื่อนำไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ที่มาและรายละเอียดของการวิถียิง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง